NewsEU มีมติแบนน้ำมันรัสเซีย ทำราคาน้ำมันโลกพุ่งทะยาน

EU มีมติแบนน้ำมันรัสเซีย ทำราคาน้ำมันโลกพุ่งทะยาน

หลังจากที่ถกเถียงกันมานาน ในที่สุดสหภาพยุโรป (EU) มีมติคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย 90% ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงในการทำสงครามของรัสเซีย

 

โดย ชาร์ล มีแชล ประธานคณะมนตรียุโรปกล่าวว่า สหภาพยุโรปจะแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียที่ขนส่งทางเรือซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ในทันที อย่างไรก็ตามน้ำมันที่ขนส่งผ่านท่อส่ง Druzhba ไปยัง ฮังการี สโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็ก จะได้รับการยกเว้นเพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

 

ส่วนการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียทั้งหมดจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยังไม่สามารถตอบได้ โดย อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่พยายามขับเคลื่อนมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียมาโดยตลอด ได้ให้คำมั่นว่าอียูจะหารือกันถึงเรื่องการอุดช่องโหว่ในมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียโดยเร็วที่สุด

 

ซึ่งในระหว่างนี้ ฮังการีกำลังเรี่ยไรเงินจากอียูเพื่อใช้สำหรับดัดแปลงโรงกลั่นน้ำมันที่ปัจจุบันสามารถรับได้เพียงน้ำมันดิบจากรัสเซียเท่านั้น และโครเอเชียเองยังต้องการเวลาในการกักตุนเสบียงน้ำมันเพื่อแบ่งให้กับเพื่อนบ้านทางตอนเหนือผ่านท่อส่งเอเดรีย

 

ในปัจจุบันสหภาพยุโรปจ่ายค่าน้ำมันและก๊าซให้กับรัสเซียประมาณ 1 พันล้านยูโร/วัน ซึ่งนับเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญในการทำสงครามของรัสเซีย โดยนักเศรษฐศาสตร์ได้ออกมาเตือนว่า การตัดท่อน้ำเลี้ยงนี้จะกระทบต่อปัญหาทางเศรษฐกิจของรัสเซียในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นมันอาจเป็นการช่วยเหลือรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น

 

ในเรื่องของผลกระทบต่อผู้บริโภคและธุรกิจในยุโรป บรรดาผู้ใช้รถและธุรกิจต่าง ๆ จะต้องควักเงินจ่ายค่ำน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากการคว่ำบาตรจะดันราคาน้ำมันให้พุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้ค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้วพุ่งสูงขึ้นไปอีก

 

ทั้งนี้ หลังจากที่อียูได้ประกาศเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันครั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบได้แตะระดับ 124.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยในปีนี้ราคาน้ำมันได้เพิ่มสูงขึ้นแล้วกว่า 55%  และนับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า