
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง ‘ศักดิ์สยาม’ เสนองบปี 64 เอื้อบริษัท
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง “ศักดิ์สยาม” เสนองบปี 64 เป็นประโยชน์ต่อหจก.บุรีเจริญ ระบุไม่เข้าเงื่อนไขเพราะไม่อยู่ระหว่างการพิจารณางบฯ ในสภา
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในคดีที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล และส.ส.รวม 47 คน ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนองบประมาณของกระทรวงคมนาคม ผู้พิจารณาและคณะกรรมาธิการที่มีส่วนโดยทางตรงและทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ที่อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่น
เนื่องจากกรณีดังกล่าวน่าเชื่อได้ว่า นายศักดิ์สยามใช้สถานะการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและกรรมาธิการ ใช้อำนาจในตำแหน่งดังกล่าวจัดทำหรือให้ความเห็นชอบโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐ โดยมีเจตนาพิเศษส่งผลทำให้หจก.และบริษัทที่บริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย รับงานเข้าเป็นคู่สัญญากับกระทรวงคมนาคม อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่าการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ต้องอยู่ในระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา
เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการ เสนอ แปรญัตติ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายหรือไม่
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 พิจารณาเสร็จสิ้นและเป็นกฎหมายใช้บังคับแล้ว กรณีนี้จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (7)