คอบร้าโกลด์ 2024 เริ่มแล้ว! สหรัฐยืนยันให้ความร่วมมือในการกู้เรือหลวงสุโขทัยเต็มที่ ปีนี้เพิ่มมิติการฝึกด้านไซเบอร์และอวกาศด้วย

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2567 พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พร้อมด้วยนายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และพลโท ซาเวียร์ บรันสัน แม่ทัพน้อยที่ 1 กองทัพบก สหรัฐอเมริกา ร่วมเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2024 ที่สนามบินอู่ตะเภาอย่างเป็นทางการ โดยมีเอกอัครราชทูตตัวแทนของประเทศพันธมิตรต่าง ๆ เข้าร่วมในพิธี

ซึ่งในปีนี้ นับเป็นปีที่ 43 โดยหัวข้อการฝึกเน้นกระชับความร่วมมือรับภัยคุกคามทุกรูปแบบ-ทุกมิติ และเพิ่มการฝึกในมิติด้านไซเบอร์และอวกาศ และภารกิจการกู้เรือหลวงสุโขทัย

เอกอัครราชทูตอเมริกาฯ กล่าวขอบคุณประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ อีกทั้งกล่าวว่าการฝึกคอบร้าโกลด์เป็นการฝึกที่สำคัญในการรับมือสถานการณ์ต่างๆ อีกทั้งถือเป็นโอกาสที่จะได้ฝึกร่วมกับมิตรประเทศต่างๆ มากขึ้น และสำหรับภารกิจการกู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัดนั้น สหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนกองทัพเรือไทยอย่างใกล้ชิด โดยจะยังคงดำเนินภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหายต่อไป 

ด้าน พลเอกทรงวิทย์กล่าวว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือของมิตรประเทศในด้านต่างๆมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับภัยคุกคามทุกรูปแบบในทุกมิติ ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ ทางไซเบอร์และอวกาศ

การฝึกคอบร้าโกลด์ 2024 จะมีระยะเวลาการฝึกทั้งสิ้น 2 สัปดาห์ ในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิการฝึกยกพลขึ้นบกที่ชลบุรี, การฝึกบรรเทาสาธารณภัยที่ฉะเชิงเทรา และการฝึกกระโดดร่มทางยุทธวิธีที่ลพบุรี และปีนี้เพิ่มการกู้เรือหลวงสุโขทัยเข้ามาด้วย อีกทั้งจะมีการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน

มีประเทศหลักที่เข้าร่วมการฝึก 7 ชาติได้แก่ ไทย สหรัฐฯ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย อีกทั้งจะมีอีกชาติอื่น ๆ รวม 30 ประเทศที่เข้าร่วมในการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน การฝึกเสนาธิการผสมนานาชาติ และสังเกตการณ์ มีผู้เข้าร่วมฝึก 9,570 นาย

การฝึกคอบบร้าโกลด์ ถือเป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารขนาดใหญ่ที่มีประวัติยาวนานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำที่ประเทศไทย โดยมีกองทัพไทย และกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นอินโดแปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึก

เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลของกองทัพ และเพื่อการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยและชาติพันธมิตร อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย