อุตสาหกรรมชิปจีนมาแรง บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การผลิตชิปของจีนกำไรพุ่ง หลังจีนพยายามพึ่งตนเองด้านเซมิคอนดักเตอร์
ผลการวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) เปิดเผยว่า ผู้ผลิตอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป (chip equipment) ชั้นนำของจีน มีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ในขณะที่ปักกิ่งยังคงตั้งเป้าที่จะพึ่งพาตนเองในด้านเซมิคอนดักเตอร์ หลังสหรัฐฯ พยายามใช้ข้อจำกัดการส่งออกเพื่อตัดปักกิ่งจากการเข้าถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญ
รายงานจาก ซินโน รีเสิร์ช (CINNO Research) บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาของจีน ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ 10 อันดับแรก มีรายได้รวมกันประมาณ 1.62 หมื่นล้านหยวน (8.18 หมื่นล้านบาท) ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบเป็นรายปี
Naura Technology Group Co. บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือที่จำเป็นในกระบวนการผลิตชิป เป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับแรกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดยมีรายได้จากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกกว่า 7 พันล้านหยวน (3.54 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบเป็นรายปี และแซงหน้าบริษัทอื่นๆ
อันดับ 2 คือ AMEC บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรที่จำเป็นในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ กวาดรายได้กว่า 2.53 พันล้านหยวน (1.28 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี
อันดับ 3 คือ ACM Research ผู้ผลิตอุปกรณ์ทำความสะอาดและบรรจุภัณฑ์สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ ทำรายได้ กว่า 1.61 พันล้านหยวน (8.13 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ข้อจำกัดการส่งออกชิปล้ำยุคและอุปกรณ์การผลิตชิปไปยังประเทศจีน นอกเหนือจากจะเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน แล้วยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่กดดันให้รัฐบาลจีนต้องหันมาพึ่งบริษัทในประเทศแทน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนกำลังมีความก้าวหน้าในด้านการผลิตชิปขั้นสูง
ในเดือนนี้ Huawei ได้เปิดตัว Huawei Mate 60 PRO ที่ใช้ชิป Kirin 9000s โปรเซสเซอร์ 7 นาโนเมตรขั้นสูง ซึ่งผลิตขึ้นโดย SMIC ผู้ผลิตชิปชั้นนำสัญชาติจีน โดย Huawei Mate 60 PRO เป็นสมาร์ทโฟนเทคโนโลยี 5G รุ่นแรกที่หัวเว่ยวางจำหน่าย ภายหลังจากหัวเว่ยถูกรัฐบาลสหรัฐฯ คว่ำบาตรทางเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2019
(1 หยวน = 5.05 บาท)