Newsครม. เห็นชอบเอกสาร 5 ฉบับ แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ

ครม. เห็นชอบเอกสาร 5 ฉบับ แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ

ไทยร่วมประชุมรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 6 ประเทศ GMS ครั้งที่ 25 ที่สปป.ลาว

 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ประชุมเห็นชอบเอกสาร 5 ฉบับ ที่จะมีการรับรองในการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (Greater Mekong Subregion economic cooperation program: GMS) ครั้งที่ 25 ในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภายใต้หัวข้อ “การเร่งรัดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อต่อยอด 30 ปี แห่งความสำเร็จของแผนงาน GMS ไปสู่การพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน” ซึ่งสาระสำคัญของเอกสารทั้ง 5 ฉบับ มีดังนี้

ฉบับแรก ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ 25 เป็นการรับทราบการดำเนินงาน อาทิ

 

1.ความก้าวหน้าสำคัญในสาขาความร่วมมือต่าง ๆ เช่น 1.ด้านคมนาคม การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2.ด้านพลังงาน การสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานผ่านการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด 3.ด้านการเกษตร การส่งเสริมการทำเกษตรที่ยั่งยืน และ 4.ด้านสิ่งแวดล้อม การลงทุนในสาขาสิ่งแวดล้อมเพื่อผลักดันการพลิกฟื้นเศรษฐกิจสีเขียว

 

2.รับทราบและให้การรับรองแผนและการดำเนินงานที่มีความก้าวหน้าในประเด็นเชิงบูรณาการ เช่น การจัดตั้งเครือข่ายองค์ความรู้ของอนุภูมิภาค GMS ความร่วมมือด้านดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล

 

3.เน้นย้ำการดำเนินตามกรอบยุทธศาสตร์แผนงาน GMS พ.ศ. 2573 พร้อมทั้งกำหนดให้มีกลไกติดตามและประเมินผล และเร่งสร้างความร่วมมือกับหุ้นส่วนการพัฒนา

ฉบับที่สอง ยุทธศาสตร์ความเท่าเทียมทางเพศ GMS เน้นย้ำการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ผ่านการสร้างโอกาสให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในโครงการรายสาขาต่าง ๆ ภายใต้แผนงาน GMS ให้มากยิ่งขึ้น และเป็นการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 5 โดยระบุประเด็นเชิงบูรณาการ เช่น การประสานเศรษฐกิจมหภาค การเคลื่อนย้ายแรงงานและการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย การศึกษาและทักษะ เขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

ฉบับที่สาม กรอบการประเมินผลลัพธ์สำหรับกรอบยุทธศาสตร์แผนงาน GMS พ.ศ.2573 จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบในการติดตามและประเมินผลในการบรรลุวิสัยทัศน์ GMS 2030 คือ “อนุภูมิภาคที่มีการบูรณาการ มั่งคั่ง ยั่งยืน และครอบคลุมมากขึ้น” โดยได้กำหนดตัวชี้วัดใน 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ความก้าวหน้าในการบรรลุวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดไว้ โดยให้ความสำคัญกับการประเมินผลการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในภาพรวม ระดับที่ 2 ประเมินผลระดับโครงการภายใต้สามเสาหลักของวิสัยทัศน์แผนงาน GMS พ.ศ.2573 (การเชื่อมต่อ (connectivity) ความสามารถในการแข่งขัน (competitiveness) และชุมชน (community) และ ระดับที่ 3 ประเมินปัจจัยนำเข้าในมิติด้านงบประมาณการสนับสนุนองค์ความรู้และกลไกเชิงสถาบัน

 

ฉบับที่สี่ ข้อริเริ่มความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล GMS จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้า เร่งการเชื่อมต่อด้านดิจิทัล ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล และเร่งการพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล โดยมีแนวทางการดำเนินการ คือ การจัดทำโครงการวิจัยเรื่องการส่งเสริมการพัฒนาเศษฐกิจดิจิทัลใน GMS เพื่อศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน แสวงหาโอกาสและความท้าทายของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลใน GMS

ฉบับที่ห้า กรอบการลงทุนของภูมิภาคฉบับใหม่ พ.ศ.2568 (RIF 2025) มุ่งพัฒนาเกณฑ์ของกรอบการลงทุนอนุภูมิภาคฉบับใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกโครงการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง มีแหล่งเงินทุนที่ชัดเจน ทั้งนี้ โครงการมูลค่าลงทุนสูงของไทยที่ได้เริ่มดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาและเข้าสู่กลไกงบประมาณแล้ว ได้แก่ โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ในประเทศ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ

ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ในครั้งนี้ คือ 1.นำเสนอบทบาทการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาของไทยใน GMS 2.หารือแนวทางการฟื้นฟู GMS ภายหลังโควิด-19 และ 3.สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ EEC และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า