2 บิ๊ก EV จีน ยังสนใจลงทุนขยายฐานการผลิต EV ในไทย เชื่อ ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อม และไม่กังวลต่อการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment of Thailand: BOI) และคณะได้เดินทางเพื่อชักจูงเอกชนเข้าร่วมลงทุนในไทย ณ มหานครฉงชิ่ง และนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยในวันที่ 28 มิ.ย. 66 ได้เข้าพบ Mr. Zhu Huarong ประธาน และคณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Changan Automobile ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงความคืบหน้าของแผนการลงทุนของบริษัทในประเทศไทย นโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของไทย ทั้งมาตรการ EV3 และมาตรการสนับสนุน EV ในอนาคต
บริษัท Changan Automobile ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัจฉริยะ และเป็น 1 ใน 4 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิต EV ในประเทศไทย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุน 9,800 ล้านบาท เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิต EV พวงมาลัยขวาจำหน่ายตลาดในประเทศและส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และแอฟริกาใต้ ซึ่งจะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่เป็นแห่งแรกนอกประเทศจีน
29 มิ.ย. 66 ได้เข้าร่วมหารือกับนาย Mr. Xu Qingsong รองประธานและคณะผู้บริหารบริษัท Chery International โดยบริษัท Chery ได้อธิบายถึงแผนการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยบริษัทฯ จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าชนิด SUV ในประเทศไทยช่วงต้นปี 2024 เพื่อเน้นเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ รวมถึงยังพิจารณาโอกาสในการลงทุนสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชนิดพวงมาลัยขวาในประเทศไทย
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการลงทุนในประเทศไทย และให้ความสนใจและสอบถามรายละเอียดเชิงลึกของมาตรการส่งเสริมการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย ขณะที่เลขาธิการบีโอไอได้กล่าวถึงสถานการณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าของไทยในปัจจุบันที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรของภาครัฐ
นอกจากนี้ เลขาธิการบีโอไอยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงเวลานี้ และได้ให้ความมั่นใจแก่บริษัทฯ ถึงความต่อเนื่องของนโยบายส่งเสริมการลงทุนและการสนับสนุนของบีโอไอเพื่อให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการลงทุนในประเทศไทย
บริษัท Chery นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของจีน โดยเป็นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของจีนมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี ด้วยยอดรวมการส่งออกสะสมกว่า 2.4 ล้านคัน โดยในปี 2022 บริษัทฯ ส่งออกรถยนต์กว่า 450,000 คัน
ล่าสุด นายนฤตม์เปิดเผยว่า “จากการหารือกับผู้ผลิตรถยนต์ EV รายใหญ่ของจีนทั้งสองราย มองว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์ EV พวงมาลัยขวา เพราะมีความพร้อมด้านระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ และมีตลาด EV ที่เติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค ซึ่งบีโอไอได้ตอกย้ำมาตรการสนับสนุน EV แบบครบวงจรของภาครัฐ รวมทั้งความต่อเนื่องของนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม EV เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล”
นอกจากนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค. – พ.ค.) จีนยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 93 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 31,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน และเคมีภัณฑ์