ประเด็นก๊าซธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ความมั่นคงที่ต้องทะนุถนอม
ก๊าซธรรมชาติ พลังงานชนิดหนึ่งที่เป็นพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้าของประเทศและได้กลายเป็นกระดูกสันหลังของการผลิตไฟฟ้าไทยตั้งแต่การค้นพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมาจนถึงปัจจุบัน และการเข้าใจว่า อะไรที่ทำให้ก๊าซธรรมชาติกลายเป็นพลังงานหลักของประเทศและทำไมการกระทำของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านไทยจึงมีผลต่อขีดความสามารถด้านการผลิตไฟฟ้าและเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในประเทศ จะทำให้เข้าใจถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและยุทธศาสตร์พลังงานได้ดียิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของก๊าซธรรมชาติที่กลายเป็นพลังงานหลักไทย เกิดจากการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติ “เอราวัณ” บนอ่าวไทย เมื่อปี พ.ศ.2524 ซึ่งหลังจากการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติ ถือว่าเป็นช่วงยุค “โชติช่วงชัชวาล” ของไทยที่การเข้าถึงแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าเริ่มมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศเข้ามาเติมเต็มเพิ่มเติมแทนที่การนำเข้าพลังงานเข้ามาในประเทศเพียงอย่างเดียว และก๊าซธรรมชาติที่ค้นพบในหลายแหล่งบนอ่าวไทยในช่วงหลังจากนั้นก็ทำให้ต้นทุนพลังงานที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าลดลงเป็นอย่างมาก และลดสัดส่วนการผลิตพลังงานจากน้ำมันที่มีต้นทุนราคาพลังงานที่สูงในช่วงขณะนั้น จึงเป็นการเปิดทางให้เกิดอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศที่กลายเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมและรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงขณะนั้น
หลังจากนั้นสัดส่วนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติก็มีสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักของไทยในเวลาต่อมา ซึ่งแหล่งพลังงานในอ่าวไทยเริ่มมีขีดจำกัดในการนำก๊าซธรรมชาติออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงระยะหลัง จึงเริ่มมีการสำรวจและเข้าถึงการลงทุนในแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติอื่น ๆ ในประเทศรอบข้าง เช่น แหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติที่เป็นการร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซีย และแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติในพม่าที่กลายเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญยิ่งและมีผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานของไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยสังเกตได้จากช่วงที่ทางการพม่าได้ทำการซ่อมบำรุงแหล่งพลังงานดังกล่าวก็จะมีการเตรียมความพร้อมการใช้งานระบบปั่นไฟสำรองจากน้ำมันเตา หากกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติไม่เพียงพอ ซึ่งการวางตัวดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยในภูมิภาคจึงมีความสำคัญต่อทั้งภูมิภาคและความอยู่รอดด้านเศรษฐกิจและพลังงานของไทยเป็นอย่างมาก ตราบที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าหลักของไทยมาจากก๊าซธรรมชาติที่นำเข้ามาใช้ปั่นไฟฟ้า แม้ว่าจะมีความพยายามในการกระจายสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าผ่านพลังงานทดแทนก็ตาม
จึงกลายเป็นประเด็นสำคัญในการเข้าใจในเรื่องพลังงานที่ใช้ในการผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าและความสำคัญของการรักษาความมั่นคงทางพลังงานในสถานการณ์โลกที่คาดเดาได้ยากรวมทั้งการวางตัวของไทยต่อประเทศเพื่อนบ้านจึงมีผลอย่างยิ่งต่ออนาคตพลังงานและเศรษฐกิจไทย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นคำถามสำคัญที่ว่า “เราควรจะดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างไรในสถานการณ์ปัจจุบันและควรทำอย่างไรกับสัดส่วนแหล่งพลังงานที่ใช้ในประเทศที่ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งหลัก” ก็คงเป็นคำถามสำคัญที่มีความสนใจในช่วงหลังจากนี้