ที่มาไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้านั้นเป็นดั่งเลือดที่หล่อเลี้ยงสังคมในยุคปัจจุบันให้ดำรงอยู่ได้ เราเคยสงสัยกันไหมว่าไฟฟ้าที่เราใช้ทุกวันมีที่มาจากไหน? เพราะไฟฟ้านั้นมีความสำคัญไม่ใช่เฉพาะในการดำรงชีวิตทั่วไป แต่รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย
โดยเฉพาะการที่ธนาคารโลก (World Bank) ได้จัดให้เศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในกลุ่มรายได้ปานกลางถึงมาก (upper-middle income economy) ตั้งแต่ปี 2554 หมายความว่าประเทศไทยเองก็มีความต้องการในการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร คำถามคือกำลังการผลิตไฟฟ้าของเราเพียงพอต่อการใช้งานโดยประชาชนในสังคมไทยและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจหรือไม่?
จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (สิ้นเดือนสิงหาคม 2565) กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ณ ขณะนี้อยู่ที่ 52,938 เมกะวัตต์ ในขณะที่การใช้งานไฟฟ้าของปีนี้ (ตัวเลขจากช่วงสูงสุดที่เคยใช้ ในฤดูร้อน เดือนเมษายน 2565) อยู่ที่ 33,177 เมกะวัตต์ แสดงให้เห็นว่ากำลังการผลิตของไทยนั้นมีเพียงพอต่อการใช้งานในประเทศ
โดยกำลังผลิตของไทยนั้นมาจากหลายฝ่าย ไม่ได้ผลิตจากภาครัฐเท่านั้น โดยมีสัดส่วนต่อไปนี้คือ ผลิตจากภาครัฐ (กฟผ.) 32%, ภาคเอกชน 56% แบ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ (IPP) 30%, รายเล็ก (SPP) 18%, หรือรายเล็กมาก (VSPP) ที่ 8%, และรวมทั้งมีการนำเข้าพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 12% ขณะที่พลังงานทางเลือก เช่น แสงอาทิตย์หรือลมนั้น อยู่ที่ไม่ถึง 1% เท่านั้น
และการผลิตไฟฟ้าของไทยเรานั้นที่มีมาจากพลังงานใดบ้าง?
คิดเป็นสัดส่วนแล้ว ก๊าซธรรมชาตินั้นถือเป็นเชื้อเพลิงหลักที่นำมาใช้ผลิตไฟฟ้า โดยอยู่ที่ 53%, ต่อมาคือถ่านหิน ซึ่งมาจากการขุดเจาะภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ รวมแล้วอยู่ที่ 16%, พลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ อยู่ที่ 10%, ในขณะที่ถ้าคิดเฉพาะพลังงานน้ำจะอยู่ที่ 3%, ส่วนการใช้น้ำมันเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นอยู่ที่ 0.6% เท่านั้น, อีก 17% นั้นมาจากการนำเข้าพลังงานไฟฟ้าจากต่างประเทศและแหล่งที่มาย่อย ๆ อื่น ๆ
จากการดำเนินการและนโยบายของภาครัฐ ประเทศไทยของเรานั้นถือว่ามีห่วงโซ่การผลิตและการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีความสมดุลเป็นอย่างมาก ทุก ๆ ปัจจัยนั้นได้รับการดูแลจัดการให้มีความสมดุล ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ทั้งการผลิตที่มาจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน รวมถึงการผลิตในประเทศและการนำเข้า รวมถึงการจัดการดูแลวิธีการผลิต ให้หลากหลาย (diversified) ไม่พึ่งพาเชื้อเพลิงใด ๆ มากจนเกินไป
การรับรู้ถึงข้อมูลในการผลิตไฟฟ้าจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจในประเด็นเรื่องพลังงานของประเทศไม่มากก็น้อย
“การเห็นต่าง” ดาบสองคมที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายเอกภาพของสังคม
จีน – รัสเซีย พันธมิตรทางการเมืองที่มีทั้งความแน่นแฟ้นและความขัดแย้งในตัวเอง
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม