ทำความรู้จักกับโมเดลแก้ปัญหารถติดจากเมืองต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา “กรุงเทพเมืองรถติด”
ทำความรู้จักกับโมเดลแก้ปัญหารถติดจากเมืองต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา “กรุงเทพเมืองรถติด”
รถติดในเมืองใหญ่ คือ เรื่องทั่วไปในการใช้ชีวิตในสังคมเมืองและเป็นเรื่องประจำของคนเมืองที่มักบ่นกันเมื่อต้องเดินทางไปไหนมาไหนและพยายามหาวิธีการเดินทางที่ใช้เวลาไม่มากนัก
ซึ่งในกรุงเทพมหานคร ทางเลือกของการใช้ วินมอเตอร์ไซด์ รถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน หรือรถยนต์ส่วนตัวที่มีความสะดวกสบาย จึงเป็นทางเลือกหลักของคนกรุงที่มีศักยภาพในการเข้าถึงที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ขีดความสามารถของแต่ละคน
และก็คงมีหลาย ๆ คนที่อยากให้ปัญหารถติดในเมืองใหญ่บรรเทาลงไป หรือถ้าหายไปเลยก็คงจะดี ซึ่งปัญหารถติดในเมืองใหญ่ก็เป็นปัญหาเรื้อรังที่มักเกิดสม่ำเสมอในเมืองใหญ่ทั่วโลก แต่สามารถบรรเทาลงไปให้ดียิ่งขึ้นได้ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของเมืองนั้น ๆ ซึ่งก็มีวิธีการในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ที่ก็มีข้อดีและข้อเสียในวิธีการนั้นที่สามารถมองเป็นตัวอย่างในการแก้ไขรถติดในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครได้ในอนาคต
วิธีแรกที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดและย่อมเป็นประโยชน์ในระยะยาว คือ การขยายโครงข่ายถนนและระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ เพราะเป็นการขยายขีดความสามารถของการขนส่งในเมืองโดยตรงและเพิ่มมูลค่าในทางเศรษฐกิจในระยะสั้น คือ การสร้างงานจากโครงการก่อสร้าง
และในระยะยาว คือ การลดต้นทุนการเดินทางซึ่งทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในอนาคต แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่มีการใช้เม็ดเงินเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาการลงทุนในโครงการที่จำเป็นเพื่อให้การลงทุนนั้นคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
วิธีถัดไป ที่ยากขึ้นอีก และเป็นวิธีที่หลายประเทศเช่น อังกฤษในกรุงลอนดอน สวีเดนในกรุงสตอกโฮล์ม พื้นที่ชั้นในสิงคโปร์ และอื่น ๆ เลือกที่จะใช้คือ การใช้ระบบโซนนิ่งและเก็บค่าใช้จ่ายพิเศษในการเข้าเขตชั้นในของเมืองซึ่งจะแพงขึ้นไปอีกในช่วงเวลาเร่งด่วน
ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะช่วยลดความแออัดทางการจราจรแล้วก็ยังช่วยทำให้รัฐมีเม็ดเงินมาพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเป็นทางเลือกให้ประชาชนเลือกใช้งาน
แต่วิธีการนี้ก็มีข้อด้อยคือ คนที่ใช้รถใช้ถนนก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าพื้นที่ชั้นในของเมืองมากขึ้นและอาจถูกมองว่าเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในเรื่องการรถใช้ถนนที่เข้มข้นไปอีก
เพราะคนที่มีรายได้สูงก็สามารถเสียค่าใช้จ่ายพิเศษและใช้ถนนในสภาพแวดล้อมที่มีรถน้อยลง ทำให้การใช้ถนนสะดวกสบายมากขึ้นไปอีกและกลายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่มีรายได้สูงและทำให้คนมีรายได้น้อยแทบหมดสิทธิ์ใช้ถนนไปเลย
อีกวิธีหนึ่งที่สิงคโปร์ใช้ในการจัดการปัญหารถติดในเมืองใหญ่ที่มีข้อจำกัดในเรื่องการขยายพื้นที่ถนนก็มีการใช้วิธีบังคับใช้ให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวจะต้องประมูลสิทธิ์ในการครอบครองรถยนต์ซึ่งจะมีอายุเพียง 10 ปี และต่ออายุได้เพียง 1 ครั้ง
ซึ่งก็เป็นวิธีที่ใช้ในการจำกัดจำนวนรถยนต์อย่างเด็ดขาดและนำเม็ดเงินจากการประมูลมาพัฒนาระบบขนส่งมวลชน แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์ประชาชนในการเป็นเจ้าของรถยนต์
ทั้งหมดนี้จึงเป็นทางเลือกที่สามารถเลือกมาปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การแก้ไขปัญหารถติดนั้นย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายซึ่งราคาที่จ่ายจะเป็นอย่างไรก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รอดูกันต่อไป
วัยรุ่นทรงเอทรงซ้อ กลุ่มสังคมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นพลังบวกหรือพลังลบต่อสังคมกันแน่
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม