Articlesด้วยวิทยายุทธอันจัดเจนของ พลเอกประวิตร จึงทำให้การโหวตร่างงบประมาณเป็นไปด้วยดี ไม่มีแตกแถว จนเหล่าเซียนการเมืองต้องฟันธง “ประยุทธ์อยู่ต่อ” แน่นอน

ด้วยวิทยายุทธอันจัดเจนของ พลเอกประวิตร จึงทำให้การโหวตร่างงบประมาณเป็นไปด้วยดี ไม่มีแตกแถว จนเหล่าเซียนการเมืองต้องฟันธง “ประยุทธ์อยู่ต่อ” แน่นอน

เป็นไปตามคาด งบประมาณปี 2566 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนอย่างหายห่วง คะแนนเสียงที่ลงมติเห็นชอบ ๒๗๘ เสียง ไม่เห็นชอบ ๑๙๔ เสียง มีนัยสำคัญมากเสียด้วย เพราะ มีเสียงห่างกันถึง ๘๔ เสียง เรียกว่าชนะท่วมท้น แถมมีคะแนนของ ส.ส.ในพรรคร่วมฝ่ายค้านมา ลงมติเห็นชอบให้รัฐบาลอีก ๑๔ เสียง

ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านคุยมาตลอดว่าต้องการอีก ๓๐ เสียง ก็สามารถล้มงบประมาณและล้มรัฐบาลได้ ธรรมนัสซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญก็บอกว่าตัวเองมีเสียงในมือ มากกว่า ๑๖ เสียง พยายามทำภาพให้เห็นว่าพรรคเล็กที่เรียกว่ากลุ่ม ๑๖+๒ อยู่กับธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทย และจะโหวตล้มงบประมาณ

แต่ท่าทีกระตือรือร้นเอาจริงเอาจังก็แผ่วไปเมื่อ เข้าสู่วันประชุมพิจารณางบประมาณ หากไปดูบัญชีรายชื่อการลงมติ ก็จะพบว่ามติเห็นชอบ ๒๗๘ เสียง มาจากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค พรรคเศรษฐกิจไทยและพรรคเล็กๆ บวกกับบรรดา ส.ส.ในพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เตรียมย้ายพรรค       

ข้อมูลวงในค่อนข้างชัดเจนว่า งานนี้เป็นเพราะบารมีของ พล.อ.ประวิตรที่สามารถบริหารจัดการ ภายในพรรคร่วมรัฐบาล ดูแลพลังประชารัฐ ขอความร่วมมือจากภูมิใจไทยที่มี ส.ส.ฝ่ายค้านเตรียมย้ายมาอยู่ด้วย ทำความเข้าใจกับประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ เจรจาลงตัวกับพรรคเล็กพรรคน้อยทุกพรรค

แล้วยังพูดตรงไปตรงมากับ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยทุกคน ทำให้ธรรมนัสไม่สามารถทำ อย่างอื่นที่ต้องการได้ และยังแสดงให้เห็นว่าพรรคเล็กๆ มีศักดิ์ศรีไม่ได้เป็นลูกน้องของธรรมนัส อย่างที่ถูกนินทาในวงการเมือง

มีคำถามว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้จะสะท้อนการลงมติไม่ไว้วางใจที่จะมี ขึ้นในไม่ช้านี้หรือไม่ คำตอบคืออาจจะมีผล แต่อาจไม่เบ็ดเสร็จเช่นครั้งนี้ จำนวนเสียงอาจไม่เท่าเดิม มีโอกาสน้อยกว่า แต่จดเลข ๒๗๘ ไว้เป็นฐานคะแนนขั้นสูงของฝ่ายรัฐบาลไว้ก่อนได้

มีสิ่งสำคัญไปกว่านั้น พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ รู้วิธีบริหารจัดการ ส.ส.และพรรคที่อาจสวิงไปสวิงมาในเวลาลงมติ รู้แล้วว่า ต้องบริหารจัดการอย่างไร รู้ว่าธรรมนัสมีจุดอ่อนอะไร หรือมีบารมีมากน้อยเพียงใด ส่วน ส.ส. พรรคเล็กก็รู้จักธรรมนัสดีขึ้น ความมั่นใจจึงเกิดขึ้น นักตีความทางการเมืองจึงบอกเหมือนกันว่า พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีจนครบเทอม

ภายหลังงบประมาณผ่านสภา ฝ่ายรัฐบาลมีความมั่นใจในทางการเมืองมากขึ้น เริ่มมีข่าว ปล่อยออกมาเหมือนโยนหินถามทางแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะเข้าไปเป็นสมาชิกและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แล้วดัน พล.อ.ประวิตร ไปเป็นประธานที่ปรึกษา

ถ้าถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ คำตอบคือเป็นไปได้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะไปต่ออีกสมัย ก็ต้องมีพรรคการเมืองของตนเอง ตั้งใหม่ก็ไม่ทัน แรมโบ้อีสานออกไปทำไว้ให้ ก็ไม่สำเร็จ มีทางเดียวต้องใช้พรรคพลังประชารัฐ

แต่มันจะเกิดขึ้นทันทีเลยหรือ? คงจะยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีอีกสองด่านรออยู่และต้องผ่านให้ได้คือ อภิปรายไม่ไว้วางใจและการอยู่ในตำแหน่งเกิน ๘ ปีที่ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

วันนี้ประเมินตัวเลขเสียงสนับสนุนจากการลงมติงบประมาณ การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่น่าหนักใจ ด่านศาลรัฐธรรมนูญเรื่องอยู่เกิน ๘ ปีน่าหนักใจมากกว่า กองเชียร์คงต้อง รอความชัดเจนกันก่อน

เวลานี้คนกรุงเทพกำลังเห่อชัชชาติผู้ว่าคนใหม่ ที่พูดกันว่าขยัน ติดดิน มีวิสัยทัศน์ ภาพ กิจกรรมส่วนตัวหรืองานราชการดูทำได้อย่างงดงามถูกตาต้องใจกองเชียร์ ลงเรือเก็บขยะ ทานข้าว ที่ร้านอาหารของ กทม. เข้าร่วมกิจกรรมเช้ายันค่ำ

สิ่งที่รออยู่คือการแสดงฝีมือบริหารจัดการงาน ต่างๆ ที่รออยู่บนโต๊ะทำงานในห้อง โดยเฉพาะงานที่สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนกรุงเทพ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ปัญหารถติด น้ำท่วม โครงการก่อสร้างงบประมาณปีละไม่ต่ำกว่าแปดพันล้านบาท

รวมทั้งทิศทางการบริหารจัดการที่มี ส.ก.และข้าราชการประจำเข้ามามีบทบาทเต็มรูปแบบ ส.ก.คงไม่ปล่อยให้ผู้ว่าทำงานกับฝ่ายประจำตามลำพัง แต่จะเข้ามาถ่วงดุลร่วมมือกับฝ่ายประจำเพื่อ ดึงงบพัฒนาพื้นที่ไปลงในพื้นที่ของตนเอง

เวลานี้ฝ่าย ส.ก.ลงตัวเรื่องประธาน รองประธาน แล้ว จึงน่าห่วงว่างานของผู้ว่าชัชชาติจะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ ว่ากันว่าผลประโยชน์มหาศาลในวงงานของ กทม. ที่จอดรถ ขยะ มาเฟียคลองเตย แรงงานต่างด้าว จะเป็นอุปสรรคสำคัญหรือการบ้านที่ผู้ว่า ชัชชาติต้องรับมือ

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การบริหารงาน บริหารคน บริหารเงิน ผู้ว่าชัชชาติต้องบริหาร จัดการการแสดงออกของตัวเองในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งที่ผ่านมาดูเหมือน ไม่ค่อยถูกใจคนบางกลุ่มและ Influencer บางคนในโลกออนไลน์ รุมถล่มผู้ว่าชัชชาติที่แสดงความจงรักภักดี

คนพวกนี้เป็นคะแนนเสียงสำคัญที่เลือกผู้ว่าชัชชาติ นักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงจะจัดการ กับกลุ่มปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เคลื่อนไหวในกรุงเทพอย่างไร?

ผู้ว่าชัชชาติต้องดูแลในหลวง พระราชินี พระบรมวงศ์ซึ่งมีพระตำหนักอยู่ในกรุงเทพมหานคร ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน ทรงเป็นลูกบ้านของผู้ว่าชัชชาติเหมือนคนกรุงเทพด้วยเช่นกัน

งานพระราชพิธีในกรุงเทพ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานครก็ต้องถวายงาน พวกปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ชอบเต้าข่าวสร้างประเด็น มีข้อเสนอให้เปิดใช้สนามหลวงเป็นที่เล่นว่าว ขายของ ก็จะเป็นความสุขใหม่ของคนกรุงเทพ

ผู้ว่าชัชชาติจะทำ อย่างไร เพราะจะมีประเด็นแหลมคมอื่นๆ เป็นบททดสอบการแสดงความจงรักภักดีให้เห็นเป็นระยะ ไม่ง่ายเลยจริงๆ

โดย แกงส้ม

 

 

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า