งบกลาโหมทั่วโลกพุ่งสูง แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว จากสงครามรัสเซีย-ยูเครนและความขัดแย้ง ระหว่างมหาอำนาจอย่าง จีน-สหรัฐ-รัสเซีย
รายงานประจำปีล่าสุดโดยสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ระบุว่า การใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลกพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 2.24 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 77 ล้านล้านบาท)
สถาบัน SIPRI ระบุในว่า ค่าใช้จ่ายทางทหารทั่วโลกโดยรวมเพิ่มขึ้น 3.7% ขณะที่การใช้จ่ายด้านการทหารของยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็นเมื่อสามทศวรรษที่แล้ว ที่ 13%
โดยมีสาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียและยูเครน และการปรับเพิ่มงบประมาณด้านการทหารของประเทศต่างๆ ในยุโรปท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น
ประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านการทหารสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย ที่ 877,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 30 ล้านล้านบาท) 292,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 10 ล้านล้านบาท) และ 86,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 3 แสนล้านบาท) ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 56% ของการใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลก
โดยค่าใช้จ่ายด้านการทหารของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากความช่วยเหลือทางการทหารในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนที่มอบให้กับยูเครน
ปีที่แล้วสหรัฐฯ ได้ส่งมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนมูลค่าสูงถึง 1.99 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 6.8 แสนล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนดังกล่าวยังคงเป็นสัดส่วนเพียง 2.3% ของการใช้จ่ายด้านกลาโหมทั้งหมดของสหรัฐฯ ในปีนี้
“การใช้จ่ายด้านกลาโหมที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เป็นสัญญาณว่าเรากำลังอยู่ในโลกที่มีความปลอดภัยน้อยลงเรื่อยๆ“ Nan Tian นักวิจัยอาวุโสของ SIPRI กล่าวพร้อมเสริมว่า “ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังเสริมกำลังทางทหารเพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคง (Security Environment) ที่กำลังถดถอยลงเรื่อยๆ ซึ่งพวกเขาไม่คาดว่าจะดีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้”
(1 ดอลลาร์ = 34.23 บาท)