นักวิเคราะห์มองนายกฯ เยอรมันเยือนจีน เป็นการส่งสาสน์ถึงสหรัฐฯ ว่า “ไม่มีสิทธิก้าวก่าย นโยบายต่างประเทศของเยอรมัน”

นายกรัฐมนตรีเยอรมัน นายโอลาฟ โชลซ์ มีกำหนดเยือนจีนเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ โดย Timur Fomenko นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า นี่เป็นการส่งสาสน์อย่างชัดเจนว่าเยอรมันจะไม่ปิดโอกาสในการสานสัมพันธ์กับจีน ขณะที่สหรัฐฯ กำลังบีบให้ประเทศต่างๆ เลือกข้างว่าจะอยู่ข้างสหรัฐหรือจีน

โชลซ์ยังได้เคยเตือน เรื่องการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ-จีน (decoupling) นอกจากนี้เยอรมันยังได้อนุมัติให้จีนเข้าถือหุ้นในท่าเรือสำคัญของเยอรมัน

รวมถึงการยอมให้ทุนจีนเข้าซื้อกิจการบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของเยอรมัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการส่งสาสน์ไปยังสหรัฐฯ ไปในทำนองเดียวกันว่าเยอรมันไม่มีท่าทีในการปฏิเสธจีน เหมือนเช่นที่สหรัฐฯ ต้องการ

เยอรมันมีนโยบายที่เปิดกว้างต่อจีนที่สุดในยุโรป หรืออย่างน้อยก็เคยเป็นเช่นนั้น โดยรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี นางแองเกลา แมร์เคิล ได้มุ่งเน้นนโยบายกระชับความสัมพันธ์กับจีน เนื่องจากมองว่าจีนเป็นตลาดส่งออกยานยนต์และผลิตภัณฑ์วิศวกรรมที่ใหญ่และให้ผลตอบแทนดีที่สุด

ซึ่งท่าทีนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐฯ เป็นอย่างมากเนื่องจากสหรัฐฯ ต้องการครอบงำการเมืองยุโรป รวมถึงเยอรมันด้วย โดยสหรัฐฯ ต้องการให้เยอรมันคอยปฏิบัติตามนโยบายต่างประเทศที่สหรัฐฯ ต้องการอย่างไม่มีวิจารณญาณ

สหรัฐฯ จึงได้ต่อต้านนโยบายต่างประเทศของเยอรมันที่มีต่อรัสเซียและจีนมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังได้ให้ทุนกับกลุ่มคลังสมอง (think-tanks) เพื่อทำการลอบบี้รัฐบาลและฝ่ายการเมืองในเยอรมัน ให้ปฏิบัติตามนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของต่างชาติในเยอรมันได้อย่างชัดเจน

เมื่อความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้น สหรัฐฯ ได้โอกาสทองที่จะทำให้เบอร์ลินปฏิบัติตามวาระของตน และมันก็เป็นเช่นนั้นในระยะหนึ่ง จนกระทั่งต้นทุนของสงครามต่อทั้งรัสเซียและจีน ‘สูงเกินไป’ สำหรับเยอรมัน

ปัจจุบัน เยอรมันกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง ส่วนเกินดุลการค้าปรับตัวลดลงจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งส่งผลให้การผลิตลดลง ซึ่งสถานการณ์ทั้งหมดนี้ล้วนเอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐฯ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าสหรัฐฯ กำลังใช้ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนเพื่อเอารัดเอาเปรียบยุโรป และสิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้นำเยอรมันเลือกที่จะเป็นอิสระจากสหรัฐฯ

#TheStructureNews

#Germany #China #US