พันธมิตรในการเลิกใช้เงินดอลลาร์ รมว.ต่างประเทศเวเนซุเอลา ประกาศชัดเจนว่า กลุ่ม BRICS คือ ‘พันธมิตรในอุดมคติ’ สำหรับ ลดพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ในเวทีการค้าโลก

อีวาน กิลล์ ปินโต รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวเนซุเอลาคาดการณ์ว่า การขยายตัวของประเทศกลุ่มเกิดใหม่ หรือ BRICS จะเป็นการรวมตัวกันของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่การลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวทีการค้าโลก

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้กับสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซีย นักการทูตอาวุโสรายนี้เน้นย้ำว่า การรวมซาอุดีอาระเบียและอิหร่านไว้ในกลุ่มมหาอำนาจเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงเวเนซุเอลาที่ปรารถนาจะเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ในอนาคต จะทำให้ BRICS มีกำลังการผลิตและปริมาณสำรองน้ำมันดิบรวมกันคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของโลก

“เมื่อรวมจีนและอินเดียเข้าด้วยกัน BRICS จะกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดเช่นกัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันจะกลายเป็นพันธมิตรในอุดมคติ การจับคู่ในอุดมคติ”

ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อียิปต์ เอธิโอเปีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ อาร์เจนตินา จะกลายเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของกลุ่ม BRICS หลังคำขอเข้าเป็นสมาชิกได้รับการอนุมัติในระหว่างการประชุมสุดยอดบริกส์ ครั้งที่ 15 ในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนที่แล้ว 

กลุ่ม BRICS ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลกออกจากสถาบันต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมหาอำนาจตะวันตก ซึ่งประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS ชี้ว่าสถาบันเหล่านั้นถูกใช้ในทางที่ผิดโดยสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร

ปินโต ยังได้แสดงทัศนคติในแง่บวกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เวเนซุเอลาจะได้เข้าร่วมกลุ่มอย่างรวดเร็ว เมื่อดูจากแรงสนับสนุนที่เวเนซุเอลาได้รับ เขาเน้นย้ำว่าอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของ BRICS ในด้านการค้าน้ำมันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในความพยายามลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในด้านการค้าขายพลังงานและสินค้าอุตสาหกรรม เช่น สินค้าทางเทคโนโลยีที่ผลิตในจีนและอินเดีย

“ด้วยสิ่งนี้ เราจะมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่สมดุลมากขึ้น” ปินโต กล่าวพร้อมชี้ว่า เวเนซุเอลามองว่าการเปลี่ยนแปลงจาก “การครองอำนาจนำ” (Hegemony) ของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นชัยชนะสำหรับเวเนซุเอลาเองด้วย

“ทุกวันนี้ เราเห็นเงินดอลลาร์ถูกใช้เป็นอาวุธในการปราบปรามประเทศอื่นๆ” “สกุลเงินใหม่นี้ที่กำลังปรากฏขึ้นในเวทีการค้าโลก จะส่งผลดีต่อเสถียรภาพของทุกประเทศสมาชิก”

เวเนซุเอลาอ้างว่ามีแหล่งสำรองน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าส่วนใหญ่จะประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนหนัก ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในด้านการสกัดและการกลั่น

ในความพยายามยกระดับแรงกดดันต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร รัฐบาลสหรัฐฯ ได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวหลายต่อหลายครั้ง โดยเน้นที่ภาคน้ำมันของเวเนซุเอลาเป็นหลัก โดยการคว่ำบาตรเหล่านี้ยังจำกัดการเข้าถึงโรงกลั่นในสหรัฐฯ ด้วย