สหรัฐฯ เตรียมลงโทษรัฐบาลทหารเมียนมาโดยเฉพาะการตัดท่อน้ำเลี้ยง หลังสั่งประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 4 ราย
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเตรียมพิจารณาบทลงโทษต่อรัฐบาลทหารเมียนมา หลังสั่งประหารนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย 4 ราย พร้อมวอนประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำที่โหดร้ายดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า ขณะนี้ทุกทางเลือกอยู่บนโต๊ะเจรจา โดยเฉพาะมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงที่เป็นช่องทางรายได้ของรัฐบาลทหารเมียนมา ที่นำมาใช้ก่อเหตุความรุนแรง
สื่อท้องถิ่นเมียนมาเผยว่า รัฐบาลทหารเมียนมาประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 4 ราย โดยกล่าวหาว่า พวกเขาต่อต้านและเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลทหารที่มาจากการยึดอำนาจ ซึ่งพวกเขาทั้ง 4 ราย ได้รับการตัดสินโทษประหารชีวิตในระหว่างช่วงพิจารณาคดีในเดือนมกราคมและเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณาม ระบุว่า “สหรัฐฯ ขอประณามการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างรุนแรง ที่ได้สั่งประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และผู้ที่ได้รับเลือกจากเสียงของประชาชน” พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมา ปล่อยนักโทษทางการเมืองทุกรายที่ถูกจับกุมแบบไม่ยุติธรรม และคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวเมียนมา
ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า การกระทำที่ยอมรับไม่ได้นี้ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลทหารเมียนมาไม่เคยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม โดยตัวเลขจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่ารัฐบาลทหารสังหารผู้คนไปแล้วกว่า 2,100 ราย กว่า 700,000 รายกลายเป็นผู้พลัดถิ่น นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชนจำนวนไม่น้อยที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลทหารต่างถูกจับกุม
ทางด้านรัฐบาลจีนที่ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลทหารเมียนมา รวมถึงเป็นแหล่งจัดหาอาวุธให้กับรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารชุดนี้ ยังคงสงวนท่าที โดยนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ระบุว่า “ทางการจีนยึดหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ขอให้ทุกฝ่ายภายในเมียนมาจัดการแก้ไขข้อขัดแย้งภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย”
Intouch ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี “ข่าวสามมิติ” เปิดเผยคลิปบันทึกการประชุมสามัญ ITV
ชัดเจนแล้ว! บิ๊กตู่ไป รทสช. พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ชี้คุยกับบิ๊กป้อมแล้ว ไม่ได้โกรธอะไรกัน
ลดพึ่งพาสารตั้งต้นจากจีน ญี่ปุ่นจะกลับมาผลิตสารตั้งต้นยาปฏิชีวนะในประเทศอีกครั้ง หลังจากเลิกไปกว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี 1994
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม