
เลิกคิดเรื่องท่อน้ำเลี้ยงได้แล้ว ‘โบว์-ณัฏฐา’ ชี้ฝ่ายตรงข้ามพรรคก้าวไกล ยังไม่เข้าใจมวลชน จึงประเมินสถานการณ์พลาดและตามเขาไม่ทันเสมอ
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2567 ช่อง Ringsideการเมือง ออกอากาศตอน “กลุ่มเคลื่อนไหว กับ ท่อน้ำเลี้ยง” โดยมีโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งมีการกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมซึ่งเป็นแนวร่วมกับพรรคก้าวไกล และฝ่ายผู้มีอำนาจซึ่งอยู่ตรงข้ามกับพรรคก้าวไกล
โดยระบุว่าฝ่ายผู้มีอำนาจมักจะมองว่ากลุ่มแนวร่วมพรรคก้าวไกล เคลื่อนไหวโดยการอาศัยท่อน้ำเลี้ยง ถูกจ้างมาให้ทำ ขอเพียงตัดท่อน้ำเลี้ยงได้ปัญหาก็จะจบ ซึ่งเป็นการตั้งสมมติฐานที่ผิด
“ถ้าคุณเชื่อแบบนี้ ก็คือคุณเข้าใจผิดจริง ๆ” น.ส. ณัฏฐากล่าวก่อนที่จะระบุว่า เป็นเพราะไม่ได้มีการเข้าไปคลุกคลี ดูบทสนทนาที่มันเกิดขึ้นจนเห็นว่ากลุ่มนักเคลื่อนไหวนั้นมีความเชื่อและชุดความคิดของตนเองจริง ๆ
อีกทั้งมีการกล่าวถึงการออกมาให้สัมภาษณ์ของนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งออกมาท้าทายให้มีการเปิดเผยหลักฐานการให้เงินเพื่อสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนนักกิจกรรมที่ผ่านมา โดยมีการตั้งคำถามว่าจะสามารถเชื่อมโยงกันได้จริง ๆ หรือ?
การให้การสนับสนุนกลุ่มนักกิจกรรมไม่จำเป็นที่จะต้องให้การสนับสนุนเพียงแค่เรื่องการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถสนับสนุนเรื่องอุดมการณ์ แนวคิดก็ได้ ซึ่งมีภาพการขึ้นเวที จับมือสนับสนุนกันปรากฏให้เห็น
ทั้งนี้ฝ่ายที่พยายามหาหลักฐานการสนับสนุนทางการเงินของพรรคก้าวไกล น่าจะมุ่งหวังการฟ้องร้องทางคดีว่าพรรคก้าวไกลให้การสนับสนุนให้เกิดการก่ออาชญากรรม แต่การหาหลักฐานนั้นก็คงไม่ง่าย เพราะไม่น่าจะมีการให้เงินในนามพรรค แต่เป็นในนามบุคคล
“ถ้าเราย้อนกลับไป กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอดประวัติศาสตร์ เอาแค่ 20 ปีที่ผ่านมา เคยมีใครรู้มั้ยว่าใครให้เงินใคร? คนอาจจะรู้ คิดว่าตัวเองรู้ แต่ว่าหลักฐานน่ะมีมั้ย? ไม่มี! มันไม่มี!” น.ส. ณัฎฐากล่าวพร้อมระบุว่าไม่มีใครทิ้งหลักฐานการเชื่อมโยงการให้เงินสนับสนุนมาถึงตนเอง
อีกทั้งยังให้ข้อสังเกตในฐานอดีตนักกิจกรรมว่า ถ้าอยากจะทราบกลุ่มเคลื่อนไหวไหนมีเงินหรือไม่ ให้ดูในรายละเอียดว่ากิจกรรมของพวกเขาใช้เงินหรือไม่ การจัดม็อบใหญ่ ๆ ต้องมีข้าวเลี้ยงคน ใช้เครื่องเสียง ล้วนแต่ต้องใช้เงินทั้งสิ้น
แต่กลุ่มทะลุวังนั้น ดูแล้วแทบไม่ต้องใช้จ่ายมาก แต่มีแรงกระทบสูงเพราะข้อความมันแรง และคงไม่มีใครอยากจะจ้างเพราะว่ามีแต่เสียกับเสีย อีกทั้งการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มทะลุวังนั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบมาก เพราะเป็นกิจกรรมที่ Counter Productive ทำไปมีแต่พัง และเป็นกิจกรรมที่ไม่ใช้เงิน ใช้แต่ความสามารถในการดึงดูดความสนใจ ซึ่งก็คงจะมีคนให้ด้วยความเอ็นดูส่วนตัวในรูปของการบริจาคมากกว่า
ฝ่ายความมั่นคงไม่ควรจะยึดติดอยู่กับภาพเดิม ๆ ว่ามันจะต้องเป็นม็อบที่มีคนคอยจ่ายเงินให้ แต่ความเคลื่อนไหวในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นความเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มเคลื่อนไหว ประชาชนทั่วไป และเครือข่ายในรูปแบบขอบ NGO
ทั้งนี้ในต่างประเทศนั้น มีการตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่นที่ญี่ปุ่น และองค์กรเหล่านี้นั้น สามารถขอการสนับสนุนทางการเงินจากองค์กรสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศ และควรมีการพุ่งเป้าการแกะรอยเส้นทางการเงินจากในจุดนี้ มากกว่าการพุ่งเป้าไปที่พรรคการเมืองในประเทศ เพราะพรรคการเมืองนั้นมีสิ่งที่ตนเองจะต้องระมัดระวังอยู่
“ในวันนี้ Mindset (ชุดความคิด) ของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับพรรคก้าวไกลกับแนวร่วม เค้าจะมี Mindset ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีความคิดเป็นของตัวเอง ถูกจ้างมา ซึ่งถ้าคุณเชื่อแบบนี้ ก็คือคุณเข้าใจผิดจริง ๆ เพราะว่าคุณไม่ได้ไปคลุกคลี ดูบทสนทนาที่มันเกิดขึ้นว่าเขามีความเชื่อของเขาจริง ๆ” น.ส. ณัฎฐากล่าว