Newsเริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม ช่วยลดความยุ่งยาก ซับซ้อน ลดความเหลื่อมล้ำ ประชาชนติดตามความคืบหน้าคดีได้

เริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม ช่วยลดความยุ่งยาก ซับซ้อน ลดความเหลื่อมล้ำ ประชาชนติดตามความคืบหน้าคดีได้

พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้แล้ว ช่วยลดความยุ่งยาก ซับซ้อน ลดเหลื่อมล้ำ ให้ประชาชนตามความคืบหน้าคดีได้

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้แล้ววานนี้ (23 ม.ค.) โดยให้กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนให้ชัดเจน เพื่อประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า สามารถตรวจสอบความคืบหน้าการทำงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมได้

 

โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวสอดคล้องกับ 1 ใน 6 ด้านของยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้แนวทางไว้

 

การดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม มีขั้นตอนการดำเนินการตามแผนปฏิรูปเพื่อกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานในทุกขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมที่ชัดเจน มีกฎหมายที่กำหนดให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในทุกขั้นตอน และกำหนดให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมสร้างระบบการตรวจสอบ หรือแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนตรวจสอบว่าเรื่องที่ใช้บริการหรือเกี่ยวข้อง ดำเนินงานไปถึงขั้นตอนใด (Tracking / Notification System)

 

เรื่องดังกล่าวยังช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยาก ซับซ้อน ช่วยเหลือประชาชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ พร้อมทั้งได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดระบบติดตาม ตรวจสอบ และแจ้งความคืบหน้า เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ

 

หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่มีหน้าที่และอำนาจดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ศาล (ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร ศาลรัฐธรรมนูญ) องค์กรอัยการ และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า