
ไทยสร้างไทยยืนกราน ค้าน การแยกปัตตานีเป็นรัฐเอกราช ชี้ไม่ควรสร้างความขัดแย้งมากไปกว่านี้ มีนโยบายแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกว่า
9 มิ.ย. 66 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยสร้างไทย และคณะทำงานประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล โพสต์เฟสบุ๊คว่า
“ทสท. [ไทยสร้างไทย] ไม่เห็นด้วย คัดค้านการเสนอทำประชามติ แยกปัตตานีเป็นรัฐเอกราช ชี้ขัด รธน.ชัดแจ้ง
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย และคณะทำงานในระยะเปลี่ยนผ่าน ฯ ในการจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ความเห็นกรณีองค์กรนักศึกษาแห่งชาติ ที่ใช้ชื่อว่า PelaJar Bangsa
ได้เสนอความเห็นในการสัมมนาทางวิชาการที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มอ.ปัตตานี โดยได้เสนอให้มีการทำประชามติขอแยกปัตตานีเป็นรัฐเอกราช นั้น
ขอยืนยันว่า พรรคไทยสร้างไทยขอปฏิเสธ คัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะเป็นข้อเสนอที่ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับที่ผ่านมาที่บัญญัติไว้อย่างชัดแจ้งว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวแบ่งแยกมิได้
ความจริงน่าเห็นใจพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับความทุกข์ยาก ลำบาก ยากจน อยู่ในความไม่สงบมากกว่า 17 ปีติดต่อกัน
การที่เยาวชนคนรุ่นใหม่เกิดมาก็พบแต่ความไม่สงบ ความยากจน ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก และความอยุติธรรมที่ญาติพี่น้อง และประชาชนในพื้นที่ได้รับมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ย่อมเป็นแรงกดดันที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่คาดว่าจะ ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้น สังคมควรให้อภัยกับกลุ่มเยาวชนดังกล่าว เพราะสิ่งที่เยาวชนเสนอนั้น เป็นข้อเสนอที่ไม่อาจเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ
แต่ก็เสนอมาด้วยความอัดอั้นตันใจกับปัญหาที่ประสบอยู่ เพียงแต่ตนมีข้อสังเกตว่า ครูบาอาจารย์ที่ร่วมจัดสัมมนาควรให้ข้อเสนอแนะกับนักศึกษาให้เสนอแนวคิดที่อยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมือง ที่สำคัญ ไม่ควรเพิ่มความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้จมลึกไปมากกว่านี้
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะมีการประชุมคณะทำงาน ฯ เป็นครั้งแรก ณ พรรคก้าวไกล ในวันนี้ เวลา 14.00 น. นั้น ผมมั่นใจว่า สุดท้ายจะได้ข้อสรุปในนโยบายแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับสถานการณ์และนำไปสู่ความสงบภายใต้การอนุรักษ์อัตลักษณ์วัฒนธรรม ประเพณี และการอยู่ร่วมกันด้วยระบบพหุวัฒนธรรม การกระจายอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ในส่วนข้อเสนอของพรรคไทยสร้างไทย ผมได้นำรายงานของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งครั้งที่ผมรักษาการประธานกรรมาธิการ ฯ ได้ทำการศึกษาไว้ในสมัยประชุมที่ผ่านมา นำมาเสนอต่อที่ประชุมพรรคไทยสร้างไทย
พิจารณา ซึ่งที่ประชุมฯ ได้พิจารณาปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมี time line หรือระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาแบ่งออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน ผมขอนำรายละเอียดทั้ง 3 ระยะ เสนอต่อที่ประชุมคณะทำงาน ฯ ในวันนี้ที่พรรคก้าวไกลก่อน จากนั้นจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป”