Newsกรมทรัพย์สินฯ จับมือเชฟมิชลิน โปรโมต “อาหาร” ที่ใช้วัตถุดิบ GI 4 ชนิด ดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

กรมทรัพย์สินฯ จับมือเชฟมิชลิน โปรโมต “อาหาร” ที่ใช้วัตถุดิบ GI 4 ชนิด ดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือเชฟมิชลิน โปรโมต “อาหาร” ที่ใช้วัตถุดิบ GI ทั้งข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ หอมแดงศรีสะเกษ กระเทียมศรีสะเกษ และเนื้อโคขุนโพนยางคำสกลนคร ช่วยทำให้คนรู้จักสินค้า GI และช่วยเพิ่มรายได้ให้ผู้ผลิตมากขึ้น แถมยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมร่วมมือกับมิชลินไกด์ประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดตัวอาหารที่ใช้วัตถุดิบได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากแหล่งผลิตในภาคอีสาน 4 สินค้า ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ หอมแดงศรีสะเกษ กระเทียมศรีสะเกษ และเนื้อโคขุนโพนยางคำสกลนคร หลังจากที่เชฟระดับมิชลิน คือ เชฟชาลี กาเดอร์ จากร้าน 100 Mahaseth (100 มหาเศรษฐ์) ร้านอาหารอีสานที่ได้รางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ประเทศไทย และเชฟเดวิด ฮาร์ตวิก จากร้าน IGNIV Bangkok ที่ได้รับรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน ประจำปี 2565 ได้ลงพื้นที่ไปคัดเลือกวัตถุดิบก่อนหน้านี้

 

“เชฟระดับมิชลินได้ลงพื้นที่ไปดูแหล่งผลิต แหล่งเพาะปลูกก่อนหน้านี้ และได้ทำการคัดเลือกวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ทำอาหาร และจะเปิดตัวให้ทดลองชิมในวันที่ 14 ธ.ค. 2565 นี้ โดยมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้สินค้า GI ที่เป็นวัตถุดิบทำอาหารเป็นที่รู้จักมากขึ้น และยังเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ผลิตมากขึ้น และยังจะส่งผลดีต่อสินค้า GI อื่นๆ ที่จะเป็นที่ต้องการนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทำอาหารมากขึ้นอีกด้วย” นายวุฒิไกรกล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสินค้า GI ไทย 136 รายการ จากทั้งหมด 171 รายการ เป็นสินค้าประเภทอาหารและผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นซอฟต์เพาเวอร์ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ เป็นเครื่องมือสำคัญในการถ่ายทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนในแต่ละท้องถิ่น เมื่อนำมาผนวกกับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

สำหรับข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์มีปริมาณการผลิต 437,468 ตันต่อปี มูลค่า 6,343 ล้านบาท หอมแดงศรีสะเกษ มีปริมาณการผลิต 63,000 ตันต่อปี มูลค่า 2,292 ล้านบาท กระเทียมศรีสะเกษ มีปริมาณการผลิต 2,180 ตันต่อปี มูลค่า 218 ล้านบาท และเนื้อโคขุนโพนยางคำ มีปริมาณการผลิต 123 ตันต่อปี มูลค่า 30 ล้านบาท รวมสินค้าสินค้า GI ทั้ง 4 รายการ สร้างรายได้รวมกว่า 8,880 ล้านบาท

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า