ระบบคลาวด์ไทยปี 66 เพิ่มขึ้น 31.7% มีมูลค่า 5.48 ล้านบาทอนุชาชี้ ภาครัฐ-เอกชนใช้งานออนไลน์มากขึ้นสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner Inc.) บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก ได้เปิดเผยว่า หลายองค์กรกำลังปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีใหม่มาเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแนวโน้มผู้ใช้ระบบคลาวด์ทั่วโลกในปี 2566 จะเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.7 คิดเป็นมูลค่า 597,325 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับในประเทศไทยนั้น การ์ทเนอร์คาดว่า ตลาดคลาวด์ทุกกลุ่มจะเติบโตสูงขึ้นในปีนี้ และองค์กรธุรกิจในประเทศไทยจะมีปริมาณการใช้จ่ายในบริการคลาวด์สาธารณะในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7 จากปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 5.48 หมื่นล้านบาท
ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญบนระบบออนไลน์มากขึ้น
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น โดยหลายหน่วยงานในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจได้ขับเคลื่อนการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านการใช้ระบบคลาวด์ (Cloud) โดยมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจในปัจจุบัน ทำให้การลงทุนในการให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบาย Thailand 4.0
นโยบายของรัฐบาลสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมดิจิทัล และนโยบาย Thailand 4.0 เชื่อมั่นและต้องการให้ประเทศเท่าทันกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงตลาดโลกได้มากขึ้น ซึ่งไทยได้ส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อเปิดโอกาสมากขึ้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมในเอเชีย รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ