ความจริงอีกด้านจากครู ครูวิชาพละนักเรียนสนุกเกอร์เหรียญทองแจง น้องได้ 0 คะแนนเพราะไม่ได้ส่งงาน
สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นกระแสข่าว ‘น้องลมหนาว’ นักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญ ลาเรียนไปแข่งสนุกเกอร์จนได้เหรียญทอง แต่ติด 0 วิชาพลศึกษา จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล จนทางโรงเรียนออกมาชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาดของระบบนั้น
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2567 นายสนั่น อ้นเกตุครูผู้สอนวิชาสุขศึกษา ชั้น ม.3โพสต์เฟสบุ๊กเพื่อชี้แจงว่าวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา เป็นวิชาที่ไม่มีสอบกลางภาค แต่เป็นวิชาที่เก็บคะแนนจากการทำงานส่งหรือเก็บคะแนนปฏิบัติระหว่างเรียนก่อนสอบกลางภาค แล้วนำคะแนนเก็บนี้มาใส่ในช่อง “คะแนนกลางภาค” ให้กับนักเรียน
แต่น้องลมหนาว และนักเรียนอีก 10 กว่าคน ได้ 0 คะแนนเนื่องจากไม่ได้ส่งงานเลยจนถึงช่วงสอบกลางภาค ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่คือว่าได้เกรด 0 และไม่ต้องเสียเงินลงทะเบียนซ่อม อีกทั้งยังสามารถตามส่งงานได้จนกว่าจะถึงวันตัดเกรด
“เพราะโรงเรียนมีระยะเวลาในการกรอกคะแนนกลางภาคหลังจากสอบกลางภาคเสร็จ เพื่อให้มีใบคะแนนออกมาให้ผู้ปกครองได้ดูคะแนนเบื้องต้น ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม ความรับผิดชอบ และวางแผนการเรียนให้ได้เกรดดีๆให้กับลูกได้ รวมถึงหากสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับครู หรือหากพบว่ามีปัญหาก็สามารถช่วยกันแก้ปัญหาเพื่อเด็กได้” นายสนั่นระบุ
สำหรับกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าเหตุใดนักเรียนที่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล ที่นายสนั่นรับผิดชอบเป็นโค้ชฝึกสอบ และไปแข่งในช่วงเวลาเดียวกันจึงไม่ติด 0 นั้น นายสนั่นระบุว่า “นักกีฬาวอลเลย์บอลไม่มีใครได้ 0 คะแนนกลางภาคแม้แต่คนเดียว เพราะทุกคนรู้ว่าต้องแข่ง จึงรับผิดชอบตามงานให้เรียบร้อยก่อนไปแข่ง จึงทำให้มีคะแนนกลางภาค”
อีกทั้งยังระบุด้วยว่า “ในส่วนนักกีฬาวอลเลย์บอลชั้น ม.3 ที่ไปแข่งในรายการนี้ ซึ่งผมก็เป็นคนสอนวิชาสุขศึกษาเขาด้วย มีอยู่ 1 คน ก็ไม่ได้ 0 คะแนนกลางภาค เพราะเขาก็ส่งงานก่อนไปแข่ง และทำส่งพร้อมเพื่อนๆ ปกติครับ และผมก็ตรวจงานให้คะแนนปกติเหมือนนักเรียนคนอื่นครับ”
สำหรับกรณีที่มีสื่อบางรายให้ข่าวระบุว่าตนเองไร้จรรยาบรรณนั้น นายสนั่นระบุว่า “ผมให้ 0 คะแนนกลางภาค (ไม่ใช่เกรด 0) นักกีฬาที่ไปแข่งได้เหรียญทอง ไร้จรรยาบรรณ กับผมให้คะแนนเด็ก ผ่านหรือเต็ม ทั้งที่ไม่มีงาน ไม่มีคะแนนเลย อาจจะมากกว่าหรือเท่ากับเด็กนักเรียนคนอื่นที่เข้าเรียนและส่งงานปกติ อันไหนไร้จรรยาบรรณกว่ากันครับ
จรรยาบรรณ… ก็ควรมีกับคนที่ไปเขียนข่าวด้วย เขียนข่าวมั่วข่าวผิด ได้ 0 ติด 0 เกรด 0 หัดหาข้อมูลให้ชัดแล้วค่อยไปเขียน ไม่ใช่ฟังอะไรมาก็ลงไปก่อน เอายอดคนอ่าน แต่เคยคิดถึงคนที่โดนด่าบ้างไหม ตอนทำข่าวใส่กันจัง แชร์กันจัง แล้วพอรู้ว่าให้ข้อมูลกันผิดจะแก้ไขอย่างไง เคยคิดจะขอโทษไหม จรรยาบรรณ?
ตรรกะง่ายๆ เด็กจะติด 0 ใช่เวลานี้ไหม เขาสอบปลายภาคกันช่วงไหน ปิดเทอมช่วงไหน ควรศึกษา… การให้ 0 คะแนนกลางภาคของผมมันโชว์ในใบคะแนน ซึ่งเด็กอาจจะถูกตำหนิ ถูกต่อว่า หรือหาวิธีแก้ไข จากผู้ปกครองไม่กี่คนที่จะรับรู้ถึงเรื่องคะแนนนี้ แต่สิ่งที่คุณทำข่าวผิด ให้ข้อมูลผิด ทำให้ผมถูกตราหน้าจากคนทั้งประเทศ คุณจะรับผิดชอบกันอย่างไร”
สำหรับกรณีที่มีการให้ข่าวว่าเป็นความผิดพลาดของระบบนั้น นายสนั่นยืนยันว่า ไม่จริง โดยระบุว่า “ผมใส่คะแนนเอง ไม่มีอะไรผิดพลาด แต่ภายหลังจากนี้จะมีกระบวนการติดตามเด็กทั้งจากครูประจำวิชาและคุณครูประจำชั้น เพื่อแก้คะแนนในรายวิชาต่างๆ ที่ตกกลางภาค (ทุกวิชา)
หากผมผิดเพราะให้ 0 คะแนนกลางภาค (ไม่ใช่เกรด 0 สามารถแก้ไขคะแนน และยังได้เกรด 4) ผมว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ถ้าผมผิดเพราะให้ 0 คะแนนกลางภาค แล้วทำให้ไม่ถูกใจ อันนี้ผมก็ขออภัยและยอมรับผิด บอกตามตรงผมไม่รู้ว่าที่ให้ 0 คะแนนไปนั้นเป็นลูกใครหรือมีอุปการคุณกับโรงเรียนอย่างไร แต่สำหรับเคสนี้ผมจำได้และจะระวังให้มาก ขออภัยอีกครั้งครับ
และในส่วนของเด็ก ซึ่งเป็นนักกีฬา สร้างชื่อเสียง และได้เหรียญทอง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 1 นครนายกเกมส์ ผมให้เกรด 4 แน่นอนครับ เพราะโรงเรียนมีเกณฑ์ช่วยเหลือนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนอยู่แล้วครับ
อีกอย่างครับ… วอลเลย์บอลของผมที่พาไปแข่งก็ได้เหรียญทองเหมือนกันครับ”