ชาวซูดาน หนีออกนอกประเทศไม่ได้ เหตุเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทำลายพาสปอร์ตผู้ขอวีซ่า ก่อนอพยพออกจากสถานทูตในกรุงคาร์ทูม
เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้ทำลายหนังสือเดินทางของชาวซูดานและพลเมืองประเทศอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า ก่อนอพยพออกจากสถานทูต เป็นผลทำให้ชาวซูดานที่ยื่นขอวีซ่าไม่สามารถหนีออกนอกประเทศได้
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ดึงนักการทูตออกจากซูดานและปิดสถานทูตในกรุงคาร์ทูมเมื่อเดือนที่แล้ว ไม่นานหลังจากความขัดแย้งปะทุขึ้นระหว่างกองกำลังของรัฐบาลซูดานกับกองกำลังกึ่งทหารของซูดาน RSF (Rapid Support Forces)
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตได้ทำลายเอกสารและสิ่งของต่างๆ รวมถึงหนังสือเดินทางของชาวซูดานก่อนที่จะอพยพออกจากสถานทูตในกรุงคาร์ทูม
“สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงคาร์ทูมมีหนังสือเดินทางของชาวซูดานและพลเมืองประเทศอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า รวมถึงหนังสือเดินทางของพลเมืองสหรัฐฯ ที่ยื่นขอรับบริการด้านกงสุล” โฆษกกล่าว พร้อมเสริมว่า จากสถานการณ์สู้รบอย่างดุเดือดในประเทศ ทำให้เราไม่สามารถคืนหนังสือเดินทางเหล่านั้นให้กับเจ้าของได้อย่างปลอดภัย เราจึงดำเนินการตามขั้นตอนของเราในการทำลายทิ้ง แทนที่จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น”
วิศวกรซอฟต์แวร์ชาวซูดานที่มีกำหนดจะเริ่มการศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยในรัฐไอโอวาในเดือนพฤษภาคมเล่าว่า วีซ่าของเขาได้รับการอนุมัติแล้วตอนที่ความขัดแย้งปะทุขึ้น แต่หนังสือเดินทางของเขายังไม่ถูกส่งคืน
เขาวางแผนที่จะหลบหนีขึ้นเหนือไปยังอียิปต์และเดินทางต่อไปยังสหรัฐฯจากที่นั่น แต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากไม่มีหนังสือเดินทาง
“ผมไม่สามารถเริ่มเรียนหนังสือได้ และตอนนี้หลังจากที่หนังสือเดินทางของผมถูกทำลาย ผมไม่สามารถออกจากประเทศไปอยู่ในที่ปลอดภัยด้วยซ้ำ” เขากล่าว
ทั้งนี้ วิกฤตความขัดแย้งในซูดาน เริ่มปะทุบขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 833 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 3,329 คน