Newsไม่แก้ รธน. หมวดพระมหากษัตริย์ ‘เศรษฐา’ แถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ต่อรัฐสภา มั่นใจ ดิจิทัล วอลเล็ตช่วยกระตุกเศรษฐกิจได้ เร่งแก้ปัญหาหนี้สิน ลดราคาพลังงาน

ไม่แก้ รธน. หมวดพระมหากษัตริย์ ‘เศรษฐา’ แถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ต่อรัฐสภา มั่นใจ ดิจิทัล วอลเล็ตช่วยกระตุกเศรษฐกิจได้ เร่งแก้ปัญหาหนี้สิน ลดราคาพลังงาน

 

 11 ก.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เน้นย้ำไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ มั่นใจว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจสมัยใหม่ ระบุนโยบายแรกที่เร่งทำคือแก้ปัญหาหนี้สิน และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน พร้อมเตรียมยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค และหนุนกฎหมายสนับสนุนสิทธิความเท่าเทียมของกลุ่มหลากหลายทางเพศ โดยมีเนื้อหาว่า

 

รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนส่งเสริมสถาบันศาสนาให้เป็นกลไกในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต ทั้งนี้ รัฐบาลมีกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน โดยกรอบระยะสั้น รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นการใช้จ่าย จุดประกายให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง 

ประกอบกับการเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว ส่วนกรอบระยะกลางและระยะยาวรัฐบาลจะเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชนผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน

นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวจุดชนวนกระตุกเศรษฐกิจประเทศให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เป็นการเติมเงินเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจให้ถึงฐานราก เกิดการจับจ่ายใช้สอย ยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ ที่จะขยายการลงทุน ขยายกิจการ เกิดการผลิตสินค้าที่มากขึ้นนไปสู่การจ้างงาน สร้างอาชีพ และเกิดการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกหลายรอบ 

รัฐบาลเองก็จะได้รับผลตอบแทนคืนมาในรูปแบบของภาษี และที่สำคัญการดำเนินนโยบายนี้จะเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศ เป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศให้เข้าสู่เศรษฐกิจสมัยใหม่ สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประชาชน เปิดประตูให้ภาคธุรกิจได้เข้าถึงแหล่งทุนใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความโปร่งใส ให้กับกลไกการชำระเงินของระบบเศรษฐกิจและรัฐบาล

มีหลายนโยบายที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ นโยบายแรกคือเร่งแก้ปัญหาหนี้สินทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน รวมถึงมาตรการช่วยประคองภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินสำหรับประชาชนที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 

และรัฐบาลพร้อมลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน สนับสนุนให้เกิดการบริหารจัดการ ราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในทันที ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการใช้พลังงานของประเทศ โดยวางแผนความต้องการและสนับสนุนการจัดหาแหล่งพลังงานอย่างเหมาะสม ส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน 

อีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วน คือการแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้คนไทยได้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ 

โดยรัฐบาลจะหารือแนวทางในการทำประชามติที่ให้ความสำคัญกับการทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมออกแบบกฎ กติกาที่เป็นประชาธิปไตย ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับร่วมกัน รวมถึงการหารือแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญในรัฐสภา เพื่อให้ประเทศสามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

นโยบายที่พร้อมสร้างโอกาสและขยายรายได้ โดยจะยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น เช่น การปลดล็อคกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสุราพื้นบ้าน ขณะที่นโยบายด้านสุขภาพ นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมมากขึ้น ประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วยบริการพื้นฐานใกล้บ้าน  รวมถึงได้ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยจะดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงานมีรายได้ และมีคุณภาพที่ดีกว่าเดิมด้วย “สวัสดิการโดยรัฐ” และพร้อมผลักดันให้มีกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของกลุ่มหลากหลายทางเพศ

นายเศรษฐากล่าวในตอนท้ายว่าหากมองอนาคต 4 ปีข้างหน้าจะเป็น 4ปีที่รัฐบาลจะวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ โดยยึดหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและน่าเชื่อถือ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้สำเร็จและเป็นรูปธรรมโดยเร็ว บนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใสและตรวจสอบได้ สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในกรณีการดำเนินงานที่กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมให้ความเชื่อมั่นแก่รัฐสภาและประชาชนว่า รัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง ยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่ไปกับการรักษาสภาพแวดล้อม เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด คือการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทุกคน และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับรุ่นลูกหลานนับจากนี้เป็นต้นไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า