อย่าบังอาจเทียบบารมีผู้บริหาร หลุดแชท รร.ในร้อยเอ็ด ครูยกเก้าอี้เข้าห้อง ผอ.โดนตำหนิรุนแรง เหตุไปนั่งเก้าอี้ของ ผอ. พร้อมไล่ครูไปซื้อเก้าอี้ใหม่ให้ ผอ. ด้าน สพฐ.ทราบเรื่องแล้ว เตรียมสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
กลายเป็นประเด็ดร้อนในโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อข้าราชการครูในจังหวัดร้อยเอ็ด เพศหญิง แคปภาพหน้าจอบทสนทนาในไลน์กลุ่ม ลงสู่เฟสบุ๊ก ซึ่งมีเนื้อความที่ชี้ให้เห็นว่า ผอ. โรงเรียนได้ตำหนิเธออย่างรุนแรงจากการที่เธอได้ไปนั่งที่เก้าอี้ของ ผอ.
ผอ. ระบุว่าการกระทำของเธอนั้นไม่เหมาะสม และไม่สมควร เป็นการบังอาจไปเทียบบารมีของผู้บริหาร ในขณะที่ครูสาวพยายามขอโทษ แต่ ผอ. กลับระบุว่า “เสียใจจนแขนขาอ่อนแรง คิดไม่ถึงจริง ๆ” พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการซื้อเก้าอี้ตัวใหม่มาให้ ผอ. ซึ่งครูสาวเองก็พยายามแสดงความรับผิดชอบด้วยการเสนอตัวซื้อให้ แต่ ผอ. ปฏิเสธ ระบุว่าทางโรงเรียนจะซื้อเอง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนครูสาวได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมในเวลาต่อมาว่า เก้าอี้ ผอ. ที่เธอไปนั่งนั้น ไม่ใช่เก้าอี้ในห้องทำงานของ ผอ. แต่เป็นเก้าอี้ในห้องประชุม โดยเก้าอี้ตัวนั้นเป็นเก้าอี้ตำแหน่งประธานในห้องประชุม
และเธอไปนั่งเก้าอี้ตัวนั้น ก่อนเริ่มการประชุม เพื่ออำนวยความสะดวกเปิด VTR ให้คณะครูฉายออกทีวีที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งเมื่อ ผอ. เดินเข้ามาเธอก็ลุกให้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้สั่งการ ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 เร่งติดตามและตรวจสืบข้อเท็จจริงเชิงลึกในทันที
อีกทั้งได้ออกคำสั่งย้าย ผอ. คนดังกล่าวมารายงานตัวและปฏิบัติราชการที่เขตพื้นที่โดยทันที ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มี.ค. ที่จะถึงนี้เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน รวมทั้งให้ความคุ้มครองครู และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งกำชับให้มีการรายงานผลการตรวจสอบภายใน 7 วัน
ด้านนางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. ในฐานะโฆษก สพฐ. กล่าวว่า ได้โทรถาม ผอ. คนดังกล่าวแล้ว และ ผอ. ก็รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่โดยหลักเหตุผล ผู้อำนวยการโรงเรียน ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ไม่ควรทำพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเก้าอี้ ทั้งหมดในโรงเรียนไม่ใช่เก้าอี้ส่วนตัว ดังนั้น จึงถือเป็นการทำเกินกว่าเหตุ
ถึงแม้ว่าพฤติกรรมของ ผอ. จะเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่ถือว่าไม่เหมาะสม ไม่เกื้อกูลครู แต่ถ้าหากมีการใช้งบหลวงซื้อเก้าอี้ จะถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรงเพราะถือว่า เป็นการใช้งบที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางราชการ