
“ไปต่อแบบนี้ไม่ได้!!” ผู้นำเยอรมัน ชี้ผู้ลี้ภัยเข้าสู่เยอรมนีถึงขั้นวิกฤต โดยปีที่ผ่านมามีผู้อพยพเพิ่มขึ้นถึงกว่า 80% โดยที่กว่า 70% ไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า
เบอร์ลินกำลังพยายามควบคุมการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายด้วยการเพิ่มมาตรการคุมเข้มตามแนวชายแดน นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ RND เมื่อวันเสาร์ (30 ก.ย.)
ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางนโยบายอื้อฉาว ‘เงินแลกวีซ่าของโปแลนด์’ และความพยายามของสหภาพยุโรปที่จะนำนโยบายการย้ายถิ่นฐานไปบังคับใช้ในสหภาพ รวมถึงความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นต่อนโยบายการย้ายถิ่นฐานในเยอรมนี
“จำนวนผู้ลี้ภัยที่พยายามเดินทางมาเยอรมนีนั้นสูงเกินไปในขณะนี้ และกว่า 70% ไม่มีการลงทะเบียนล่วงหน้าใดๆ แม้ว่าเกือบทั้งหมดมาจากประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปก็ตาม” ชอลซ์ กล่าว
นายกฯ เยอรมนียังกล่าวด้วยว่า เขาจะหารือเกี่ยวกับ “เพดานผู้อพยพที่ยืดหยุ่น” ในระหว่างการประชุมกับประมุขรัฐต่างๆ ของเยอรมนีในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเสนอเงินทุนแก่รัฐต่างๆ ตามจำนวนผู้ลี้ภัยที่พวกเขารับมา
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ขอให้โปแลนด์ให้คำมั่นว่าจะไม่ขายวีซ่าให้กับผู้ลี้ภัยเพื่อให้สามารถเดินทางเข้าเยอรมนีได้ง่ายๆ
แม้ที่ผ่านมาจะมีข้อพิพาทหลายครั้งภายในกลุ่มรัฐบาลผสมของเยอรมนี แต่ชอลซ์ เน้นย้ำว่ารัฐบาลของเขา ได้บรรลุข้อตกลงในการหยุดการอพยพย้ายถิ่นอย่างผิดปกติไปยังสหภาพยุโรป พร้อมเสริมว่า สิ่งนี้จะสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือและความสามัคคีเท่านั้น ซึ่งเยอรมนีจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
เมื่อเร็วๆ นี้ เยอรมนีได้ยกระดับการคุมเข้มตามแนวชายแดนกับโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก หลังจากที่ในปีนี้มีคำร้องขอลี้ภัยเพิ่มขึ้นเกือบ 80% ทั้งนี้ เยอรมนี โปแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก อยู่ในกลุ่มเชงเก้น (Schengen) ซึ่งผู้คนสามารถข้ามพรมแดนโดยไม่ต้องมีการตรวจลงตราพาสปอร์ตและไม่มีจุดตรวจพรมแดน
เยอรมนีได้รับคำขอลี้ภัยประมาณ 175,000 รายในปี 2566 ไม่รวมชาวยูเครน กว่า 1 ล้านคนที่ผ่านกระบวนการลี้ภัยพิเศษที่สหภาพยุโรปนำมาใช้ในช่วงสงครามของรัสเซีย ขณะเดียวกัน รัฐบาลเยอรมนีกำลังพยายามดึงดูดผู้อพยพให้เข้ามารับตำแหน่งงานประมาณ 2 ล้านตำแหน่ง ทั้งนี้ ผู้ร่างกฎหมายลงมติเมื่อเดือนมิถุนายนเห็นชอบให้มีการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองที่มีแรงงานมีทักษะ
ในเยอรมนี พรรคอัลเทอร์เนทีฟฟอร์เยอรมนี (AfD) ฝ่ายขวาจัดที่ต่อต้านผู้อพยพกำลังได้รับความนิยม ในขณะที่พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย (SPD) ของชอลซ์ พร้อมด้วยพันธมิตรแนวร่วม กำลังเริ่มเสื่อมความนิยมลงเรื่อยๆ