ปิดดีล 2,200 ล้าน ซาอุฯ สั่งซื้อสินค้าจากไทย คาดปีหน้ายอดเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้าน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐและเอกชนแถลงภายหลังการพบหารือกับ มร.อัจลาน อะลาจลัน ประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย หลังเปิดงาน Saudi-Thai Business Forum ที่สภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย
โดยถือว่าเป็นกิจกรรมใหญ่ที่นำคณะเอกชน 138 ราย เพื่อเจรจาการค้าระหว่างกัน และถือว่าประสบความสำเร็จ โดยสามารถทำ MOU ร่วมกันระหว่างสภาเอกชนของประเทศไทยกับสภาเอกชนของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบียขึ้นมา
ทั้งนี้ หลังจากนี้สภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบีย ได้ลงนามจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ซาอุฯ คาดว่าจะมีการเจรจาทางการค้าระหว่างกันไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 1 ปี และทำสัญญาซื้อขายทันที 10 คู่ ทั้งที่เจดดาห์และริยาด มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
และจัดกิจกรรมเจรจาซื้อขายทางธุรกิจ เจรจาซื้อขายจริง ทำสัญญาในเวลาที่กำหนดและตกลงราคากันเพิ่มเติมทั้งที่ริยาดและเจดดาห์อีกไม่ต่ำ 1,200 ล้านบาท ทำให้รวมยอดในกิจกรรมเยือนซาอุฯ ครั้งนี้มีรายได้ถึง 12,200 ล้านบาท จึงเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมจากการเดินทางนำคณะเอกชนมาที่ซาอุดิอาระเบียในเที่ยวนี้
“โดยเฉพาะสินค้าอาหาร เครื่องปรุงรส ผักสด เครื่องแกง อาหารกระป๋อง อาหารทะเล ทูน่ากระป๋อง ซาดีนกระป๋อง ผลไม้กระป๋องและผลไม้สด รวมทั้งสินค้าอื่น ๆ ที่ใช้วัตถุดิบทางการเกษตร อาหารเสริม วันนี้ขายได้ดีและสินค้าเหล่านี้เริ่มมีวางขายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในซาอุดีอาระเบียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นห้าง LuLu hypermarket หรือห้าง Manuel Market ที่ตนไปเมื่อวานมีสินค้าเหล่านี้วางขาย
อาหารไทย ผลไม้ไทย สินค้าอาหารกระป๋อง ถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมของคนซาอุดีอาระเบีย เป็นสินค้าที่มีอนาคตและคิดว่าในอนาคตซาอุดีอาระเบียจะเป็นประตูในการกระจายสินค้าไทยไปกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมทั้งกลุ่ม GCC กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศด้วย” นายจุรินทร์ กล่าว
นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียต้องการดึงนักลงทุนจากทั่วโลกและนักลงทุนจากไทย เพื่อร่วมโครงการใหญ่ที่ท่านมกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบียทรงเปิดตัวออกมา คือ โครงการ Saudi Vision 2030 ซึ่งจะดึงนักลงทุนจากทั่วโลก โดยไทยมีความสนใจ และไทยยังสนใจที่จะดึงนักลงทุนจากซาอุดีอาระเบียมาลงทุนที่ประเทศไทยด้วยเช่นกัน ทั้งทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมทั้งภาคการผลิตอื่น ๆ
นายจุรินทร์ กล่าวบนเวที Saudi-Thai Business Forum ว่า ปัจจุบันโลกกําลังเผชิญกับปัญหาความท้าทายที่สําคัญยิ่ง คือ เรื่องความมั่นคงด้านพลังงานและด้านอาหาร จึงเป็นช่วงเวลาสําคัญที่สุดที่ทั้ง 2 ประเทศจะเร่งกระชับความเชื่อมโยง เพื่อเสริมศักยภาพของกันและกัน ในการเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นความเข้มแข็งร่วมกัน โดยซาอุดีอาระเบีย จะเป็นแหล่งความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศไทย และประเทศไทยจะเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้ซาอุดีอาระเบีย
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ได้เชิญชวนนักลงทุนชาวซาอุดีอาระเบียมาลงทุนในประเทศไทย โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA ที่ประเทศไทยทํากับ 18 ประเทศ 14 ฉบับ อาทิ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ฮ่องกง เปรู ชิลี RCEP และจะทําเพิ่ม เช่น EFTA และ UK และไทยยังมีศักยภาพเป็นประตูการค้าสู่อาเซียน และซาอุดีอาระเบียเป็นประตูการค้าสู่ตะวันออกกลางได้ต่อไป
#TheStructureNews
#สินค้าไทย #ซาอุดีอาระเบีย
อ้างอิง :[1] https://tna.mcot.net/business-1007453
ยุติสงครามได้ใน 24 ชม. ทรัมป์ ลั่นหากเขาได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ สมัยหน้า เขาจะเป็นตัวกลางยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
EU สั่งสอบค่ายรถไฟฟ้าจีน ชี้เงินอุดหนุนค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากรัฐบาลจีน กำลังบิดเบือนราคาตลาดรถไฟฟ้าในยุโรป ซึ่งนำไปสู่การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
โอกาสดีแก้วิกฤตราคาพลังงานในเอเชีย รัสเซียพุ่งเป้าค้าน้ำใน “ตลาดเอเชีย” เพื่อหลีกเลี่ยงการค้ากับชาติตะวันตกหลังถูกคว่ำบาตรอย่างหนัก
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม