เกาไม่ถูกที่ นโยบายแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ องค์กรครูชี้ เหมาะกับลูกจ้างรายวันมากกว่า แต่ไม่เหมาะข้าราชการกินเงินเดือน
จากมติ คณะรัฐมนตรี วันที่ 13 ก.ย. 66 ซึ่งมีมติให้ปรับวิธีจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดือนละ 1 รอบ เป็น 2 รอบ เพื่อช่วย บรรเทาทุกข์ข้าราชการชั้นผู้น้อย เพิ่มสภาพคล่อง ลดปัญหาการกู้หนี้ยืมสิน โดยคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 นั้น
นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา และอดีตนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (สบมท.) ได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย และแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ซึ่งจะสร้างปัญหาแก่ทั้งระบบในภาพรวม
นายรัชชัยย์กล่าวว่าการแบ่งจ่าย 2 รอบเป็นการเอาปัญหาของข้าราชการบางคนมากระทบทุกคน และไม่เพียงไม่ได้ทำให้หนี้ลดลง แต่ยังทำให้เกิดผลกระทบต่อการวางแผนการเงิน ซึ่งทุกวันนี้ข้าราชการที่เป็นหนี้ จะถูกหักชำระหนี้ ตั้งแต่ก่อนที่เงินเดือนจะโอนเข้าบัญชีตอนสิ้นเดือนอยู่แล้ว และได้รับเงินคงเหลือหลังการหักเข้าบัญชี
หากรัฐบาลรัฐบาลจะแก้ปัญหาให้ตรงจุด ควรช่วยด้วยการหาแหล่งกู้เงินดอกเบี้ยต่ำให้ข้าราชการสามารถกู้ยืม เพื่อรวมหนี้สินไว้ที่เดียวกันทั้งหมด โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ไม่เกินร้อยละ 3-3.5 ต่อปี เนื่องจากทุกวันนี้ข้าราชการจ่ายหนี้สหกรณ์ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงร้อยละ 8 – 10 ไม่รวมหนี้บัตรเครดิตต่างๆที่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 23 ต่อปี
นายรัชชัยย์ยังกล่าวด้วยว่านโยบายนี้ไม่ได้ตอบโจทย์ข้าราชการกลุ่มใดเลย และไม่เข้าใจว่ารัฐบาลทำไปเพื่อแก้ปัญหาหนี้ หรือต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้ที่อาจจะรู้ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายนี้ คือผู้ที่ได้รับค่าแรงเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ แต่ในส่วนของข้าราชการที่คุ้นเคยกับการได้เงินเป็นรายเดือน แล้วมาวางแผนระบบชีวิตในการรับเงินเดือนเต็มเดือน ถือว่านโยบายนี้ เกาไม่ถูกที่คัน