
จีนเปิดรับผลไม้ไทย 24 ชม พาณิชย์ เผยรายงานโลจิสติกส์ เดือน มิ.ย. 66 จับตา ‘เอลนิโญ่’ และ วิกฤตรัสเซีย – ยูเครน เสี่ยงทำราคาขนส่งและสินค้าเพิ่ม
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานสถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ไทย ระบุว่าในเดือน มิ.ย. 66 ที่ผ่านมามีการลงทุนจากต่างประเทศในธุรกิจโลจิสติกส์ มูลค่า 4,355.99 ล้านบาท คิดเป็น 12.58% ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในประเทศไทย สัญชาติที่มีการลงทุนมากที่สุด ได้แก่ จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ตามลำดับ
โอกาสสำหรับธุรกิจโลจิสต์ติกส์ไทย คือทางการจีนมีการปรับเวลาการเปิดด่านศุลกากร ให้เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงที่มณฑลกว่างสี รับผลไม้ไทยทั้งจากทางเรือและรถไฟ อีกทั้งมีการใช้ระบบบริหารด่านศุลกากรอัจฉริยะ (Smart Customs) ซึ่งช่วยร่นระยะการดำเนินการลงได้มากถึง 2 เท่า ซึ่งจะช่วยลดปัญหาผลไม้ขาดความสด หรือเน่าเสียลงได้
อย่างไรก็ดี ประเด็นความท้าทายคือปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตรในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรของไทยลดลง และราคาการนำเข้าวัตถุดิบอาจปรับตัวสูงขึ้น จำเป็นต้องวางแผนรับมือกับผลกระทบ และเลือกรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสม
ผลจากปรากฏการณ์เอลนิโญ่ ส่งผลกระทบต่อคลองปานามาแล้ว โดยระดับน้ำในคลองปานามาลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้มีการปรับเปลี่ยนระดับความลึกของเรือ (อัตรากินน้ำลึก) ส่งผลให้อัตราการบรรทุกสินค้าของเรือลดลง ทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าเพิ่ม
นอกจากนี้ ผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งทำให้รัสเซียประกาศระงับการต่ออายุ “ข้อตกลงส่งออกธัญพืช” ของยูเครนผ่านทะเลดำ ซึ่งกระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่าเรือทุกลำที่มุ่งหน้าสู่ยูเครนอาจถูกรัสเซียพิจารณาว่าเป็นเรือบรรทุกยุทธภัณฑ์ทางทหารทั้งหมด
ซึ่งคำประกาศดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน และปุ๋ย มีความเสี่ยงต่อวิกฤตราคา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคและการขนส่งที่อาจลดลง