Newsแจง 4 ข้อหา พูลวิลลาหรู บนเกาะเต่า เจ้าของรับ ไม่รู้กฎหมาย ยินดีรื้อถอน และฟื้นฟู

แจง 4 ข้อหา พูลวิลลาหรู บนเกาะเต่า เจ้าของรับ ไม่รู้กฎหมาย ยินดีรื้อถอน และฟื้นฟู

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 66 จากกรณีที่มีการแพร่ภาพรีสอร์ทเคปชาร์ค พูล วิลล่า บนโซเชียลมีเดีย ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ. สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ พบและพูดคุยกับนางสุนิสา ลาพอร์ท เจ้าของ รีสอร์ทเคปชาร์ค พูล วิลล่า

 

ทำให้ทราบว่าพื้นที่เกาะเต่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุทั้งเกาะ มีกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล และ บริษัท เคปชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นผู้ครอบครองอาคารที่ตั้งเลขที่ 21/9 หมู่ที่ 3 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลตำบลเกาะเต่า พื้นที่ครอบครองยังไม่ได้ดำเนินการเช่าที่ดินจากธนารักษ์ และอาคารที่พักไม่ได้มีการขออนุญาตให้ก่อสร้างอาคาร รวมถึงยังไม่ได้มีการจดแจ้งหรือได้รับใบอนุญาตแต่อย่างใด 

 

ซึ่งทางเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สั่งห้ามมิให้บุคคลใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคาร ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป 

 

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า บริเวณอาคารที่พัก มีท่อน้ำทิ้งปล่อยลงทะเล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะในแผ่นดิน โดยไม่มีการบำบัดตามมาตรฐานของทางราชการ 

 

เจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว และแจ้งให้นางสุนิสาทราบด้วยว่าการกระทำของ บริษัท เคป ชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นการกระทำการผิดกฎหมาย ดังต่อไปนี้ 

 

1.พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ฐาน ยึดถือหรือครอบครองทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ โดยปกติสุข หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ที่ราชพัสดุ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน5ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 45 

 

2.พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือแจ้งต่อพนักงานท้องถิ่นและดำเนินการตามมาตรา 39 ทวิ ตามมาตรา 21 ประกอบมาตรา 65 

 

3.พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มาตรา 15 ประกอบมาตรา 59 

 

4.พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 44 หรือตามประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา 45 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

 

เจ้าหน้าที่ ได้ทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องส่งพนักงานสอบสอนสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ดร.ยุทธพล กล่าวว่า ในการพูดคุย  นางสุนิสา ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมยอมรับทุกข้อกล่าวหา ยืนยันทำไปด้วยไม่รู้ข้อกฎหมาย จากนี้ยินดีรื้อถอนอาคาร พร้อมรับผิดชอบฟื้นฟูพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า