Newsเมื่อรัฐบาลไม่ปฏิเสธ สิ่งที่นายทักษิณทำ เท่ากับเพิ่มพลังของนายทักษิณ… ซึ่งจะส่งผลลดภาวะผู้นำของนายกฯ ลงไป รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตรไปเจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา ว่าจะสร้างความสับสนต่อบทบาทประเทศไทย และทำให้คนสงสัยว่า ใครคือนายกฯ ตัวจริง ใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจ

เมื่อรัฐบาลไม่ปฏิเสธ สิ่งที่นายทักษิณทำ เท่ากับเพิ่มพลังของนายทักษิณ… ซึ่งจะส่งผลลดภาวะผู้นำของนายกฯ ลงไป รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตรไปเจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา ว่าจะสร้างความสับสนต่อบทบาทประเทศไทย และทำให้คนสงสัยว่า ใครคือนายกฯ ตัวจริง ใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจ

เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขอพบปะกับกลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา เพื่อเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพในเมียนมา ทำให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แสดงความกังวลว่า

 

จะเป็นการสร้างความสับสนต่อบทบาทของประเทศไทยในการสร้างสันติภาพในเมียนมา เพราะนายทักษิณไม่มีตำแหน่ในรัฐบาลนี้ และรัฐบาลไม่ได้มอบหมายให้ไปในฐานะตัวแทนรัฐไทยไปดำเนินการ ถึงแม้ว่าตนเองจะสนับสนุนให้ไทยเป็นตัวกลางในการสร้างสันติภาพในเมียนมา แต่ก็ต้องดำเนินการผ่านกลไกที่ถูกต้องมีความชอบธรรม 

 

บทบาทหน้าที่ดังกล่าวควรจะเป็นของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งการดำเนินการของนายเศรษฐานั้นจะมีรัฐสภาคอยกำกับ แต่นายทักษิณไม่มีตำแหน่งใดในรัฐบาล จึงไม่มีกลไกกำกับความสัมพันธ์ หากนายทักษิณเจรจารับคำ ก็จะเหมือนผูกพันรัฐบาลด้วย จะทำให้เป็นปัญหาในเชิงการทำงานและการตรวจสอบ

 

การเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพเมียนมา ควรจะใช้กลไกของหน่วยงานรัฐบาล ทั้งฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่ในฐานะบุคคล แต่ในขณะเดียวกัน ท่าทีของนายเศรษฐา และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว. ต่างประเทศกลับแสดงออกในลักษณะปัดความรับผิดชอบ ไม่รับรู้ จะเป็นปัญหาภาวะผู้นำตัวจริงของรัฐบาล

 

“เมื่อรัฐบาลไม่ปฏิเสธสิ่งที่นายทักษิณทำ เท่ากับเพิ่มพลังของนายทักษิณ ทำให้การเจรจาที่ทำนั้น ไม่แตกต่างอะไรจากการเจรจาของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลลดภาวะผู้นำของนายกฯ ลงไป อีกทั้งเมื่อไม่ปฏิเสธที่ชัดเจน ถือเป็นปัญหาที่น่าปวดหัว ว่าใครคือ นายกฯตัวจริง ใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจ” นายรังสิมันต์กล่าว

 

ทั้งนี้นายรังสิมันต์กล่าวว่า กมธ. จะดำเนินการตรวจสอบอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้นในวันที่ 12 พ.ค. กมธ.จะลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งแต่เดิมแล้วจะไปติดตามการสนับสนุนด้านมนุษยธรรม และเก็บข้อมูลเรื่องนโยบายความมั่นคง แต่จะมีการแทรกกรณีของนายทักษิณเพิ่มเข้ามาด้วย

ทั้งนี้ถึงแม้ว่ากลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาจะเป็นฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ภาพของนายทักษิณต่อสันติภาพเมียนมาไม่ชัดเจน ว่าต้องการประชาธิปไตยแบบไหน และที่ผ่านมาในการตรวจสอบของ กมธ.ความมั่นคงฯ ไม่เคยได้รับรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศมองภาพสันติภาพเมียนมาแบบไหน 






เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า