
“ช่วยนักเรียนด้วย” ‘ผอ. เตรียมพัฒน์’ ร้องเรียน สว. ขอให้ช่วย ปกป้องนักเรียนจากการคุกคามของ ’หยก’ ชี้ ครูไปพบมารดาถึงร้อยเอ็ด แต่ถูกไล่กลับ
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 66 น.ส.จินตนา ศรีสารคาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ พร้อมด้วยตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่รัฐสภา เพื่อขอความเห็นใจและช่วยเหลือในการคุ้มครองนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการและช่วยเหลือเด็กในภาวะเสี่ยง คือ น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก
น.ส.จินตนา กล่าวว่า ทางโรงเรียนพยายามให้โอกาส น.ส. ธนลภย์ ในการกลับมาเข้าเรียน แม้ปัจจุบันจะไม่มีสถานะนักเรียนในสังกัด เนื่องจากไม่ได้มอบตัวกับโรงเรียนอย่างเป็นทางการ แต่ทางโรงเรียนพยายามติดต่อผู้ปกครอง โดยครูประจำชั้นเดินทางไปถึงจ.ร้อยเอ็ด พบว่ามีแม่และน้าอยู่ภายในบ้าน ร้องขอให้ดำเนินการมอบตัว น.ส. ธนลภย์ ตามระเบียบของโรงเรียน แต่กลับถูกปฏิเสธและไล่ให้กลับพร้อมบอกว่าไม่ต้องมายุ่งอีก
“ขณะนี้บรรยากาศในโรงเรียนมีความถดถอย และมีความหวาดกลัว เพราะน้องหยกที่เข้าโรงเรียนมาได้ ได้ถ่ายคลิปในพื้นที่ไว้ และสนทนากับบุคคลภายนอกผ่านทางโทรศัพท์ตลอดเวลา ทำให้เพื่อนนักเรียนมีภาวะถดถอยด้านการเรียน มีความวิตก และหวาดกลัว ทั้งนี้ตัวแทนผู้ปกครองได้ส่งจดหมายถึงความชัดเจนในเรื่องแก้ปัญหา แต่ทางโรงเรียนพยายามช่วยเหลือ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากนักเรียน ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่านักเรียนภายในโรงเรียนนั้นถูกละเมิดสิทธิเช่นกัน”
ทางโรงเรียนได้พยายามทำความเข้าใจกับน.ส.ธนลภย์ ว่าสามารถสมัครสอบได้ใหม่อีกครั้งในปีการศึกษาหน้า แต่ขณะนี้ไม่มีสถานภาพเป็นนักเรียนแล้ว ขณะที่ข้อเสนอเช่น การแต่งกายด้วยชุดไปรเวท นั้นทางโรงเรียนรับไม่ได้ เพราะต้องยึดตามระเบียบของโรงเรียนที่ออกตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงเดินทางมาเพื่อขอความช่วยเหลือจาก กมธ. ให้ช่วยคุ้มครองสิทธิเด็กนักเรียนคนอื่น ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการสอบกำลังใกล้จะมาถึง
ด้านนายสมชายกล่าวว่า ทาง กมธ.จะรับเรื่องไว้ และจะประสานไปยัง กมธ.การพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส และกมธ.การศึกษา เพื่อหารือแนวทางร่วมกัน อย่างไรก็ดีตนเห็นใจ น.ส.ธนลภย์ เพราะอาจมีอาการเคว้ง เพราะไม่มีสภาพเป็นนักเรียน อีกทั้งยังเข้าใจในสิทธิและเสรีภาพในตัวบุคคลของน.ส.ธนลภย์ แต่ต้องไม่ทะลุทะลวง