
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567
สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำพรรคฝ่ายค้านเปิดหัวข้อการอภิปรายด้วยวลีว่า “รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน” โดยทางพรรคได้มีการโพสต์ข้อความลงสื่อโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
“วันนี้ เกิดคำถามว่า รัฐบาลเพื่อไทย กำลังทำเพื่อใคร? เพื่อประชาชน หรือเพื่อคนที่หนุนนำให้ได้ตั้งรัฐบาล? รัฐบาลที่จัดตั้งมาโดยฝืนความต้องการของประชาชน จะรับใช้ประชาชน หรือรับใช้คนที่อนุญาตให้ตนได้กลับมามีอำนาจ?”
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่าสิ่งนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตอบ ไม่ใช่พรรคฝ่ายค้าน และขอให้พรรคฝ่ายค้านเอาข้อเท็จจริงมาพูดกันจะดีกว่า อยากให้ดูที่นโยบายและการกระทำของรัฐบาล ไม่อยากให้ใช้วาทกรรม
อีกทั้งยังระบุด้วยว่าการตั้งประเด็นตามมาตรา 152 เป็นการพูดคุย เสนอแนะปัญหาต่อรัฐ ไม่ใช่ตรวจสอบ (มาตรา 152 เป็นการอภิปรายแบบเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหา อาจจะมีการลงมติหรือไม่ก็ได้)
เพราะถ้าจะทำอย่างนั้นต้องขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 (มาตรา 151 เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หรือรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล และจะมีการลงมติซึ่งอาจส่งผลให้นายกรัฐมนตรี และ/หรือรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งได้)
ดังนั้น ขออย่าบิดเบือนประเด็น เอาการอภิปรายเรื่องข้อเสนอแนะมาเป็นประเด็นดิสเครดิตรัฐบาล มันไม่เป็นประโยชน์ การเลือกตั้งยังเหลืออีก 3 ปีครึ่ง ค่อยไปว่าตรงนั้นดีกว่า
“หมดสมัยแล้วใช้วาทกรรมปั๊มตราใคร แล้วให้คนอื่นมาพูด ที่บอกว่าจะทำการเมืองสมัยใหม่ร่วมกัน มีแต่ใช้วาทกรรมมาคอยจิกกัดเช่นนี้ มันไม่สร้างสรรค์ ถ้าสร้างสรรค์ให้มาเสนอแนะว่าไม่รับใช้ประชาชนตรงไหน หรือหัวใจเพื่อใคร จะตัดหัวใจออกมาดูร่วมกันว่าหัวใจใครเพื่อประชาชนกว่า ผมว่าให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน
อย่าใช้วาทกรรม เพราะไม่ใช่การเมืองใหม่ เป็นการเมืองเก่าที่หาคำพูดมาคอยจิกกัดโดยไม่ได้ดูความเป็นจริง ผมเสียใจที่เห็นน้องหลายคนซึ่งดูท่าว่าเป็นคนรุ่นใหม่ อยากทำการเมืองสมัยใหม่ แทนที่จะมาพูดคุยถึงความเป็นจริงแล้วมีข้อเสนอแนะ” นายภูมิธรรมกล่าว
ทั้งนี้นายภูมิธรรมยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเพิ่งจะได้เริ่มทำงาน ที่ผ่านมาได้แต่ใช้งบไปพลางก่อน งบลงทุนยังไม่มี ถึงแม้ว่าพรรคก้าวไกลจะระบุว่ามีบางประเด็นที่อาจต่อยอดด้วยการไปยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้นก็เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่เสนอเป็นประเด็นการเมืองมันก็เปล่าประโยชน์ ไม่ควรเล่นการเมืองแบบนี้
อย่าต้องการแค่วาทกรรม พิธีกรรม แล้วดิสเครดิตรัฐบาล ไม่ได้ช่วยให้รัฐบาลหรือประเทศดีขึ้นเลย อย่าเล่นการเมืองแบบเก่า มานั่งคอยจิกกัดกัน เสนอความเห็นดีๆ จะดีกว่า