โปรโมทอาหารไทย ‘ภูมิธรรม’ โปรโมทข้าวหอมมะลิพรีเมียมและอาหารไทย ถกเอกชนสหรัฐหนุนการนำเข้าสินค้าไทย

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดกิจกรรม In-store Promotion สินค้าข้าวหอมมะลิพรีเมียมและอาหารไทย ห้าง Ralphs Fresh Fare  โดยมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และคณะเข้าร่วม

พร้อมกันนี้ยังได้เยี่ยมชมแผนกสินค้าไทย ชมสาธิตการทำอาหารจากข้าวหอมมะลิไทย โดยได้ทดลองชิมข้าวผัดสับปะรดที่ทำจากข้าวหอมมะลิไทยจากเชฟมนตรีจากร้าน 8E8 Thai street food ซึ่งได้รับรางวัล Thai SELECT 

โดยนายภูมิธรรม ชื่นชมเชฟที่ช่วยเผยแพร่ความเป็นไทย ผ่านการจำหน่ายอาหารไทย และการใช้รถฟู๊ดทรัค ที่ตกแต่งให้เห็นถึงความเป็นไทย เป็นตัวอย่างที่ดีมากในการใช้ Soft Power ด้านอาหาร รวมทั้งนำอาหารไปขายที่สเปซเอ็กซ์ด้วย

นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าข้าวโลกมีแนวโน้มแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากขึ้น จากปัจจัยที่อินเดียอาจพิจารณายกเลิกมาตรการระงับการส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติ  ดังนั้นไทยจึงต้องเร่งทำตลาดข้าว เพื่อเร่งรัดการส่งออกข้าวไทยเพิ่มขึ้น 

เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าข้าวไทยให้แก่ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้รู้จัก ในฐานะข้าวคุณภาพดี มีมาตรฐาน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อข้าวไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตกที่มีชาวเอเซียอยู่เป็นจำนวนมาก  มีโอกาสที่จะจำหน่ายสินค้าอาหารไทยสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีให้ไทยส่งออกข้าวไปยังตลาดสหรัฐฯ

ทั้งนี้จากการหารือกับ Mrs.Chris Wong ประธานบริษัท Golden Star Trading Inc.  ผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิ และอาหารกระป๋องจากไทยรายใหญ่ มีการนำเข้าข้าวปีละ 60-70 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้ขอบคุณที่นำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

และร่วมมือในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สินค้าไทยมาโดยตลอด และหวังว่าจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต และหากมีปัญหาอุปสรรคอะไรที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือ ตนพร้อมที่จะช่วยดูแลแก้ไขให้

ส่วนการหารือกับ Mr.Michael Taccone ผู้จัดการห้าง ห้าง Ralphs Fresh Fare ซึ่งเป็นห้างในเครือบริษัท Kroger Co. (โครเกอร์) ซึ่งเป็นเจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ มีจำนวน 2,759 แห่ง และกำลังอยู่ระหว่างการซื้อกิจการเครือ Albertson ซึ่งมีซุปเปอร์มาร์เก็ตในมือจำนวน 2,323 แห่ง หากรวมกันสำเร็จจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 5,000 แห่ง

ขณะเดียวกันตนได้รับรายงานจาก อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศกำลังเร่งจัดกิจกรรมการส่งออกสินค้าไทยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยขอฝากผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย ปรับตัวและให้ความสำคัญกับกติกาการค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ เรื่องคาร์บอนเครดิต การดูแลสิ่งแวดล้อม กรีนอีโคโนมี่ ซึ่งจะเพิ่มแต้มต่อการแข่งขันอย่างยั่งยืนต่อไป

“อาหารการกินประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก  คนไทย คนต่างชาติ คนเอเชีย ชาวตะวันตกก็ชื่นชอบอาหารไทย ถูกปากทุกคน เป็นซอฟพาวเวอร์อย่างหนึ่ง ยืนยันว่าสินค้าไทยโดยเฉพาะอาหาร คนนิยมชมชื่นมาก เดือนมีนาคมนี้เขาจะไปพบตนที่กรุงเทพฯ อยากนำสินค้าตัวใหม่ของประเทศไทย มาขายที่นี่ เป็นห้างที่มีสาขาในสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก ซึ่งเค้าผูกพันกับประเทศไทย ” นายภูมิธรรมกล่าว