Newsทุบสถิติใหม่อีกแล้ว คนใช้ไฟทุบสถิติค่าพีค 34,826.50 เมกะวัตต์ เหตุเพราะอากาศร้อน ใช้ไฟมาก ค่าไฟแพง แนะพฤติกรรมใช้ไฟ 5 ป. ลดภาระค่าไฟฟ้า

ทุบสถิติใหม่อีกแล้ว คนใช้ไฟทุบสถิติค่าพีค 34,826.50 เมกะวัตต์ เหตุเพราะอากาศร้อน ใช้ไฟมาก ค่าไฟแพง แนะพฤติกรรมใช้ไฟ 5 ป. ลดภาระค่าไฟฟ้า

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า จากสภาวะอากาศร้อนมาก ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง และเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ช่วงเวลา 21.41 น. ได้เกิดสถิติความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของระบบไฟฟ้า หรือ ค่าพีค (Peak) ใหม่ อยู่ที่ 34,826.50 เมกะวัตต์ สูงกว่า

Peak เดิม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 14.30 น. ที่ 33,177.30 เมกะวัตต์

 

จากสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 – 7 พฤษภาคม 2566 ส่งผลประชาชน

มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อคลายร้อน อีกทั้งเครื่องทำความเย็นประเภทต่างๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม มีความต้องการใช้ปริมาณไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อทำความเย็นให้มากขึ้นตามภาวะอากาศร้อนจัดเช่นกัน

 

กกพ. ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้ใช้ไฟร่วมกันประหยัดการใช้พลังงาน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า 5 ป. ได้แก่ ปิดไฟที่ไม่ใช้ หรือไม่จำเป็น ปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส ปลดปลั๊กไฟเมื่อเลิกใช้ เปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบ LED และปลูกต้นไม้เพื่อเป็นร่มเงาและช่วยลดอุณหภูมิให้กับตัวบ้าน ร่วมกันประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดภาระค่าไฟฟ้า

 

พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนได้มีการตรวจสอบ “หน่วยการใช้ไฟฟ้า” ในการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในบิลค่าไฟ รอบเดือนพฤษภาคม 2566 ของท่านว่ามีความผิดปกติหรือไม่ด้วย เพราะค่าไฟที่เพิ่มอาจจะเป็นได้ทั้งจากการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าผิดปกติ และอีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากสภาวะอากาศทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นกว่าเดิมได้และส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเพิ่มขึ้นตามไปด้วย 

 

ซึ่งปัจจุบันสาหรับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่การเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเป็นแบบอัตราค่าไฟฟ้าอัตราก้าวหน้าคือ ยิ่งใช้ไฟฟ้าจานวนหน่วยมากขึ้นก็จะถูกเรียกเก็บค่าไฟในอัตราที่แพงขึ้นด้วย เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น จากกระบวนการผลิตไฟฟ้าของไทยจะผลิตจากต้นทุนที่มีราคาถูกก่อน และเมื่อการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นจะมีการผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนสูงขึ้น แม้ค่าไฟฟ้าในงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 66 จะไม่ได้ปรับขึ้นซึ่งเรียกเก็บในอัตราค่าไฟฟ้า 4.70 บาทต่อหน่วยก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ขออนุมัติ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อใช้เงินงบประมาณในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2566 (4 เดือน) โดยผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลดแบบขั้นบันได กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคานวณภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราส่วนลดเดียวกันกับช่วงเดือน มกราคม – เมษายน 2566 ดังนี้

 

(1) ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน

 

ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจานวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้า ตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย 

 

(2) ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย

 

 ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 18.36 ล้านรายใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7,602 ล้านบาท





เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า