โต้กลับ ‘ศิริกัญญา’ ‘เผ่าภูมิ’ ชี้แยกให้ออกอะไรคือวิสัยทัศน์-วิธีการ-วิธีทำ ไม่ใช่ไปมองหาวิธีการทำก่อนการกำหนดวิสัยทัศน์ แนะอย่าเอาแต่อ่านผ่าน ๆ ควรอ่านให้ละเอียด
ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ผลักดันประเทศไทยเป็น 8 ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567
ทำให้ในวันที่ 23 ก.พ. 2567 น.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาวิจารณ์ว่า ทั้ง 8 เรื่องล้วนแต่เป็นเรื่องเก่า ๆ จากรัฐบาลก่อน ไม่เห็นจะมีอะไรใหม่ และไม่มีรูปธรรม ถือว่าเป็นแผนที่ค่อนข้างลอย เป็นสิ่งที่อยากจะทำมากกว่าแผนงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน
อีกทั้งหลายเรื่อง ยังมีอุปสรรคและมีความย้อนแย่งในตัวเอง เช่นการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ที่ยังมีปัญหาคอขวดในเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ และค่ารักษาพยาบาลอยู่ หรือเรื่องการเป็นศูนย์กลางทางการบิน ที่ในประเทศยังมีปัญหาเรื่องตั๋วแพง
ล่าสุด วันที่ 24 ก.พ. 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ออกมาตอบโต้ น.ส. ศิริกัญญาว่าอย่าสับสนระหว่าง ”วิสัยทัศน์ วิธีการ วิธีทำ“ เนื่องจากการวางแผนพัฒนาประเทศ จะต้องมองจากภาพใหญ่ลงเล็ก เพื่อการกำหนดเป้าหมายก่อนว่าประเทศจะเดินไปในทางไหน ก่อนที่จะมามองหาวิธีการว่าจะทำอะไร แล้วค่อยมองหาวิธีทำว่าจะทำมันอย่างไร
อย่ามองภาพเล็กขึ้นไปหาภาพใหญ่ อย่ามองหาวิธีทำก่อนกำหนดวิสัยทัศน์ เพราะนั่นจะทำให้การพัฒนาประเทศไร้ทิศทาง และควรอ่านระหว่างบรรทัดของถ้อยแถลงให้ลึก เพราะถ้ามองอ่านผ่าน ๆ ก็จะเห็นแต่ภาพลอย ๆ ควรจะอ่านแต่ละบรรทัดให้ลึก แล้วจะเห็นในสิ่งที่รัฐบาลจะทำ เปิดความแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
เช่น คำว่า “Homeland สายการบินนานาชาติ” มันไม่ใช่แค่เรื่อง Micro เช่น ตั๋วแพง การตรวจคนเข้าเมือง อย่างที่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวถึง แต่มันคือการมองเชิงยุทธศาสตร์ใหญ่ถึงการช่วงชิงการเป็นฐานการบินของสายการบินต่างชาติให้มาอยู่ที่ไทย ซึ่งคือโจทย์ที่ใหม่และสำคัญมาก
นายเผ่าภูมิกล่าวว่า ขอฝากใน 3 เรื่อง
1 ควรมองวิสัยทัศน์ผู้อื่นอย่างมีวิสัยทัศน์
2 ไม่ควรสับสนระหว่างวิสัยทัศน์-วิธีการ-วิธีทำ
3 ควรอ่านระหว่างบรรทัดให้ลึก