
NATO เตรียมเปิดสำนักงานญี่ปุ่น เพื่อยกระดับความมั่นคงในอินโด-แปซิฟิก ท่ามกลางความท้าทายจากจีน-รัสเซีย
หนังสือพิมพ์นิกเกอิ รายงานว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) กำลังวางแผนที่จะเปิดสำนักงานประสานงานในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นแห่งแรกในเอเชีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการปรึกษาหารือกันระหว่างประเทศสมาชิกในภูมิภาค ท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์จากจีนและรัสเซีย
ญี่ปุ่นยังมีแผนลงนามในโครงการความร่วมมือเฉพาะบุคคล (Individually Tailored Partnership Program : ITPP) ก่อนการประชุมสุดยอดนาโต ณ เมืองวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย ในวันที่ 11-12 ก.ค. 2566
โดยทั้งสองฝ่ายมีความตั้งใจจะยกระดับความร่วมมือในการจัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ประสานงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่และเป็นภัยคุกคาม รวมถึงแลกเปลี่ยนบันทึกเกี่ยวกับการต่อสู้กับข้อมูลที่บิดเบือน
ข้อเสนอเปิดสำนักงานประสานงานแห่งใหม่ ถูกหยิบยกมาขึ้นมาเป็นครั้งแรกในการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น และเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ระหว่างที่สโตลเทนเบิร์ก เดินทางเยือนกรุงโตเกียว เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ต่อมาในช่วงกลางเดือนเมษายน นาโตได้เผยแพร่ร่างข้อเสนอดังกล่าวให้แก่สมาชิกทั้ง 31 ประเทศ
ปีเตอร์ ทักเซอ-เยนเซน เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศญี่ปุ่นบอกกับ Nikkei Asia ในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า สำนักงานประสานงานของนาโต จะเป็นสำนักงานแห่งแรกในอินโด-แปซิฟิกและเป็นมากกว่าสัญลักษณ์
“มันจะเป็นหนทางที่ชัดเจนและแท้จริงในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและนาโต” ทักเซอ-เยนเซน กล่าว
ทักเซอ-เยนเซน ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ภูมิทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากนับตั้งแต่ที่นาโตประกาศแนวคิดยุทธศาสตร์ฉบับก่อนหน้าในปี 2010
“ในเวลานั้น รัสเซียถือเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพและไม่มีการกล่าวถึงจีนเลย แต่ในการประชุมสุดยยอดผู้นำนาโต ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน ในปี 2565 ผู้นำประทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมตัดสินใจว่ารัสเซียไม่ใช่พันธมิตรอีกต่อไปแต่เป็นศัตรู และมีการยอมรับว่าการผงาดขึ้นของจีนจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงข้ามยุโรป”
“นี่คือเหตุผลว่าทำไม NATO จึงจำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรของเราในภูมิภาคนี้” เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศญี่ปุ่นกล่าว พร้อมเสริมว่า สำนักงานประสานงานจะติดต่อกับผู้มีบทบาทสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น อินเดียและประเทศในอาเซียนด้วย
ขณะที่ Oana Lungescu โฆษกของ NATO ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของญี่ปุ่น โดยระบุว่า “ในบรรดาพันธมิตรของนาโต ไม่มีใครใกล้เคียงหรือมีความสามารถมากไปกว่าญี่ปุ่น” “เรามีค่านิยม ความสนใจ และความกังวลเหมือนๆกัน ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนยูเครนและการรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดจากระบอบเผด็จการ… ความร่วมมือระหว่างเรากำลังแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ”
สำนักงานแห่งใหม่นี้ มีกำหนดจะเปิดในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียด เช่นว่าญี่ปุ่นจะจัดหาพื้นที่ให้ หรือนาโต้จะให้ทุนสนับสนุนหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ โดยปกติแล้วประเทศเจ้าบ้านจะเป็นผู้จัดหาพื้นที่สำนักงานให้ และหากญี่ปุ่นให้ทุนสนับสนุนเพื่อจัดตั้งสำนักงานนาโตในประเทศ มันจะเป็นการแสดงสัญลักษณ์ถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงใหม่ที่เกิดขึ้น
อนึ่ง นาโต้มีสำนักงานประสานงานที่มีลักษณะคล้ายกันที่สหประชาชาติ (UN) ในนิวยอร์ก องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ในเวียนนา เช่นเดียวกับในจอร์เจีย ยูเครน บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอลโดวา และคูเวต