อนุญาตให้ไทยจับทูน่าในนาอูรู ‘นลินี’ หารือ รัฐมนตรีนาอูรู ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน จ่อนำเข้าสินค้าไทย ส่งนักศึกษามาเรียนต่อในไทย
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ดร. นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังจากการหารือร่วมกับนายเรแกน วินสัน เอลิคลิก ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีถึง 4 กระทรวง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการฟื้นฟู กระทรวงสาธารณูปโภค และกระทรวงการประมงของสาธารณรัฐนาอูรู
ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และการส่งเสริมความร่วมมือที่จะเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นด้านการประมง ซึ่งถึงแม้ว่าขนาดของประเทศนาอูรูจะเล็กกว่าไทยมากแต่มีขนาดของพื้นที่ทางทะเลเท่ากับประเทศไทย ส่งผลให้นาอูรูอุดมไปด้วยทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะปลาทูน่า
แต่อย่างไรก็ตาม นาอูรูยังขาดความรู้ เทคนิค และเครื่องมือในการทำประมงนอกน่านน้ำ จึงเป็นโอกาสสำคัญในการสนับสนุนบริษัทประมงของไทยไปทำการประมงในน่านน้ำนาอูรู รวมถึงยังเป็นโอกาสให้ภาครัฐไทยได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในประเด็นดังกล่าว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าไทย และนาอูรูควรจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในเรื่องการประมง เพื่อให้การส่งเสริมความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวมีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ผู้แทนการค้าไทย เสริมว่า นอกจากโอกาสในการพัฒนาความสัมพันธ์ในด้านอุตสาหกรรมประมง ยังมีโอกาสอีกมากในมิติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมการขยายตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย เนื่องจากนาอูรูเป็นประเทศผู้นำเข้า (Importing country) และไม่มีภาคการผลิตในประเทศ รวมถึงด้านการแพทย์
ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลนาอูรูได้จัดทำ MOU ด้านการแพทย์กับ 2 โรงพยาบาลในไทยเพื่อรับผู้ป่วยจากนาอูรูเข้ามารักษาพยาบาลที่ประเทศไทย จึงเป็นโอกาสในการต่อยอดเพิ่มเติมไปที่เวชศาสตร์เชิงป้องกัน หรือ Preventive Healthcare
นอกจากนี้ ตนยังเห็นว่าการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ผ่านการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ ในปัจจุบันรัฐบาลสาธารณรัฐนาอูรูได้มอบทุนการศึกษาให้แก่ชาวนาอูรูเพื่อเดินทางมาศึกษา ระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่สถาบันการศึกษาในไทย และบุคลากรที่จบการศึกษาจากในไทยเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นกำลังสำคัญในการทำงานให้แก่ทางการนาอูรูในด้านต่าง ๆ
ดร. นลินี กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลไทยมีความพร้อมที่จะสานต่อและเพิ่มพูนความร่วมมือกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก โดยเริ่มจากก้าวแรกกับประเทศนาอูรู เพื่อหาโอกาสในการส่งเสริมและขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ