
คลังตั้งเป้าแก้ปัญหาหนี้ ตั้งเป้าลดเพดานหนี้ครัวเรือนลงเหลือ 80% ของ GDP นำแรงงานนอกระบบเข้าสู่กองทุนการออม ตั้งเป้า 5 ล้านคนในปี 67
30 ต.ค. 66 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนไทยมีมูลหนี้ประมาณ 15-16 ล้านล้านบาท หรือค 90% ของ GDP ซึ่งในส่วนนี้เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 10%
กระทรวงมีเป้าหมายที่จะลดภาระหนี้ครัวเรือนของประเทศลงสู่ระดับ 80% โดยส่วนหนึ่งจะให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการตัดลดภาระหนี้บางส่วนกับลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียกับธนาคารโดยเฉพาะกับสถาบันการเงินของรัฐ สั่งการให้ธนาคารออมสิน เป็นผู้รับผิดชอบดูแลโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของรัฐบาล ด้วยการจัดตั้ง AMC เพื่อมาบริหารหนี้เสียในภาคครัวเรือน
โครงการนี้จะมีการนำหนี้เสียที่อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันการเงินของรัฐ ให้มาอยู่ภายใต้การบริหารของ AMC ซึ่งหากในอนาคต ภาคเอกชนต้องการจะนำหนี้เสียของตนเองมาให้ AMC แห่งนี้บริหารก็สามารถทำได้
“การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของหนี้ภาคครัวเรือน น่าจะเป็นผลดีต่อสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เนื่องจากหนี้ที่เป็น NPL เหล่านั้น ทางสถาบันการเงินได้สำรองเต็ม 100 % ไปแล้ว ดังนั้น หากสามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้เหล่านั้นและได้รับการชำระหนี้กลับคืนมาเท่าไหร่ ก็จะเป็นกำไรของสถาบันการเงินเท่านั้น” นายกฤษฎากล่าว
นอกจากนี้ยังเน้นให้ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เร่งนำแรงงานนอกระบบ ซึ่งยังไม่มีระบบการออมเพื่อการเกษียณอายุ เข้ามาสู่ระบบ การออมเพื่อการเกษียณของ กอช.
นายกฤษฎากล่าวว่า แรงงานนอกระบบนั้นมีจำนวน 18 ล้านคน มี 10 ล้านคนที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 40 ซึ่งมีระบบการออมที่ได้รับบำเหน็จ แต่อีก 8 ล้านคน ไม่ได้อยู่ในระบบการออม จึงมอบหมายให้ กอช.เร่งนำแรงงานทั้ง 8 ล้านคนเข้าระบบ โดยมีเป้าหมายในปี 2567 อย่างน้อย 5-6 ล้านคนจาก 8 ล้านคน จะต้องเข้าระบบ กอช.