‘ปลัดพลังงาน’ ยันตรึงราคาเต็มที่ ความขัดแย้งในอิสราเอล ทำราคาน้ำมันพุ่ง ไทยยังมีน้ำมันสำรองใช้ถึง 2 เดือน ขอประชาชนช่วยกันประหยัด
การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส สร้างแรงตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุปทานน้ำมันเกือบหนึ่งในสามของโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอีกมากกว่า 4%
โดยราคาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า วันที่ 9 ต.ค. 66 ราคาเปิดตลาดทะยานจาก 82.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขึ้นเป็น 85.93 ก่อนที่จะมีการปรับตัวขึ้นอีก จนขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 86.83 ณ เวลา 8:00 น. แต่ล่าสุดลดระดับลงมาอยู่ที่ราคา 85.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (ณ เวลา 13:42 น)
ด้านนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รวมทั้งองค์กรทางการเมืองกลุ่มชาวปาเลสไตน์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ประเทศไทยจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะไม่ได้มีการนำเข้าพลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากอิสราเอลหรือปาเลสไตน์ เนื่องจาก ปัจจุบันไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศกลุ่มตะวันออกกลางประมาณ 57% ในขณะที่ LPG นำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 33% จากหลากหลายแหล่ง
อีกทั้งไทยมีน้ำมันดิบสำรอง 3,910 ล้านลิตร และที่อยู่ระหว่างการขนส่งอีก 1,637 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 2,180 ล้านลิตรทำให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองใช้ได้กว่า 2 เดือน แบ่งเป็น น้ำมันดิบ 33 วัน อยู่ระหว่างขนส่งอีก 14 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 20 วัน และ LPG สำหรับภาคครัวเรือนอีก 21 วัน
อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อและรุนแรง จะส่งผลต่อราคาพลังงานโลก เนื่องจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งเป็นผู้ผลิตและส่งออกพลังงานรายใหญ่ของโลก
ยืนยันว่ากระทรวงพลังงานจะยังคงดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการบรรเทาให้เกิดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด และขอให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์วิกฤตนี้และร่วมกันใช้พลังงานโดยเฉพาะน้ำมันอย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน