
ขอมีส่วนใน ‘แลนด์บริดจ์’ สื่อรัฐบาลมาเลเซียเผย ‘มาเลเซีย’ ควรมีส่วนร่วมโดยตรง ในผลประโยชน์จากโครงการ
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2567 สำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซีย (เบอร์นามา) เปิดเผยถึงข้อคิดเห็นของ ร.ศ. ศาซิดา จัน มูห์ด ข่าน (Assoc. Prof. Shazida Jan Mohd Khan) จากสถาบันนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน (ECOFI) คณะเศรษฐศาสตร์ การเงิน และธนาคาร มหาวิทยาลัยอุตรามาเลเซีย (UUM) ต่อคำประกาศล่าสุดเกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทย
ร.ศ. ศาซิดากล่าวว่า มาเลเซียมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาผลกระทบจากแลนด์บริดจ์ของประเทศไทยในทันที ถึงแม้ว่าโครงการดังกล่าวจะยังอีกนานกว่าจะเริ่มดำเนินการก็ตาม เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของมาเลเซีย
โครงการแลนด์บริดจ์นี้จะเสนอทางเลือกที่เร็วกว่าและถูกกว่าในแง่ของการขนส่งทางเรือผ่านช่องแคบมะละกา ทางการมาเลเซียจึงควรพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและลอจิสติกส์ในพื้นที่ทางตอนเหนือของของคาบสมุทรได้แก่ เมืองปะลิส รัฐเกดาห์ และปีนัง
และควรพัฒนาโครงการสนามบินนานาชาติคูลิม (KXP) เพื่อสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้มาเลเซียได้รับผลประโยชน์ด้วย อีกทั้งโครงการสนามบินนานาชาติคูลิมจะสนับสนุนทั้งท่าเรือปีนังและบริการการขนส่งที่สนามบินนานาชาติปีนังในเชิงบวกได้อีกด้วย
ด้าน ร.ศ. อับดุล ราฮิม อานัวร์ (Assoc. Prof. Abdul Rahim Anuar) นักวิจัยจากสถาบันวิจัยด้านอินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ แห่ง UUM ระบุว่ามาเลเซียมีความจำเป็นที่จะต้องมีส่วนร่วมโดยตรงกับโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการลงทุนโดยตรง หรือการให้บริษัททาเงเซียเข้าไปร่วมลงทุนในโครงการ
“โครงการแลนด์บริดจ์อาจไม่เป็นประโยชน์ต่อมาเลเซีย หลังจากสร้างเสร็จ เนื่องจากตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากมาเลเซีย ดังนั้นเราจึงควรมีส่วนร่วมในการก่อสร้างเพื่อรับประโยชน์จากมัน” ร.ศ. อับดุลกล่าว
ด้านนายฮาอิม ฮิลมัน อับดุลลาห์ (Haim Hilman Abdullah) ประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมและการลงทุน การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของรัฐเคดาห์ กล่าวในสภานิติบัญญัติของรัฐเคดาห์ ว่ารัฐบาลมาเลเซีย ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลแห่งรัฐต้องเริ่มศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์นี้ เนื่องจากโครงการส่งผลประทบต่อภูมิรัฐศาสตร์การเมืองอย่างมาก
สื่อมาเลเซียยังรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2566 นายดาโต๊ะ เสรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียเคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลังการเยือนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประเทศไทย 1 วันว่าแผนของไทยในการก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์จะเป็นประโยชน์กับมาเลเซียเช่นกัน อีกทั้งนายเศรษฐาได้ยื่นหลักประกันเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของมาเลเซีย