ขึ้นทะเบียน GI ปลาทูแม่กลองเป็นสินค้า GI ลำดับที่ 4 ของสมุทรสงครามชี้ ปลาทูแม่กลองสร้างรายได้กว่าปีละ 12 ล้าน
ปลาทูแม่กลอง ถือเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงครามมาเป็นเวลานาน ตัวปลาทูมีลำตัวกว้าง แบน และสั้น สีผิวขาวเงินมันวาว มีแถบสีน้ำเงินแกมเขียวหรือแถบสีเหลือง ครีบหางสีเหลืองทอง เมื่อนึ่งแล้วมีเนื้อแน่น ละเอียดนุ่ม หอมและมัน
แต่เดิมทีนิยมบรรจุปลาทูแม่กลองใส่เข่ง ด้วยการหักคอปลาให้เข้ากับรูปทรงที่กลมของเข่ง จนเกิดนิยามว่า “ปลาทูแม่กลองของแท้ จะต้องหน้างอ คอหัก” ซึ่งในปัจจุบันปลาทูจากที่อื่นบรรจุใส่เข่งเพื่อเลียนแบบจนยากที่จะแยกออก เนื่องจากโดยสายพันธุ์ปลาทูทั่วประเทศไทย (และในอาเซียน) ล้วนเป็นปลาแมคคาเรลสั้น (short mackerel) เหมือน ๆ กัน
สิ่งที่ทำให้ปลาทูแม่กลองมีความแตกต่างมาจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของปากแม่น้ำแม่กลอง และเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเล ลักษณะดินเกิดจากการทับถมของตะกอนแม่น้ำและตะกอนน้ำทะเล ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธาตุอาหาร ทำให้ลักษณะและรสชาติของปลาทูแม่กลองมีความแตกต่างและโดดเด่นกว่าที่อื่น
จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาโดยการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อยกระดับสินค้าในท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน พร้อมกับการส่งเสริมการควบคุมคุณภาพสินค้าเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบัน มีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI แล้วเกือบ 200 รายการ ทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย
เมื่อวานนี้ (21 ส.ค. 66) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ปลาทูแม่กลอง” เป็นสินค้า GI ลำดับที่ 4 ของจังหวัดสมุทรสงคราม ต่อจากส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม สิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม และพริกบางช้างแล้ว
นอกจากนี้ ทางจังหวัดสมุทรสงครามมีการจัดงาน “เทศกาลกินปลาทูที่แม่กลอง” ประจำปี ซึ่งจัดมาอย่างยาวนานถึง 24 ปี นับเป็นงานเทศกาลที่มีชื่อเสียง และได้รับการประชาสัมพันธ์จากภาคส่วนต่างๆ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนไปกว่า 12 ล้านบาท