
กังวลน้ำปนเปื้อนรังสี ร้านอาหารญี่ปุ่นในจีนกลัวผลกระทบรุนแรง หลังทางการญี่ปุ่นเตรียมปล่อยน้ำปนเปื้อน จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงทะเล
ร้านอาหารญี่ปุ่นในจีนกำลังเผชิญกับการขาดแคลนทั้งลูกค้าและอาหารทะเล หลังรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีจากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่ทะเล
“ผมกังวลมากว่าเราจะไปต่อได้ไหม” การไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบอาหารถือเป็นสถานการณ์ความเป็นความตายสำหรับเราอย่างแท้จริง” คะซุยูกิ ทานิโอกะ เชฟและเจ้าของ Toya Sushi ในกรุงปักกิ่งกล่าว
จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้สั่งห้ามนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจาก 5 จังหวัดในญี่ปุ่นในทันทีหลังเกิดวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ในปี 2011 ก่อนที่จะขยายคำสั่งแบนเพิ่มเป็น 10 จังหวัดในเวลาต่อมา
ข้อจำกัดการนำเข้าล่าสุดถูกกำหนดขึ้นในเดือนนี้หลังจากที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติอนุมัติแผนการของญี่ปุ่นในการปล่อยน้ำปนเปื้อนที่ผ่านการบำบัดแล้วลงทะเล ซึ่งจีนวิพากษ์วิจารณ์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยระบุว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์ทะเลและสุขภาพของมนุษย์
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาการนำเข้าก็หยุดชะงักลง โดยที่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นบางคนกลัวว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง การตรวจสอบของจีนที่เข้มงวดมากขึ้นทำให้ศุลกากรล่าช้าอย่างมาก และคำเตือนที่แข็งกร้าวก็ทำให้ลูกค้าร้านอาหารญี่ปุ่นห่างหายไป
นอกจากร้านอาหารแล้วซัพพลายเออร์อาหารทะเลก็ประสบปัญหาเช่นกัน “เวลารอที่ท่าเรือของจีนเพิ่มขึ้นจากระหว่าง 2-7 วันเป็นประมาณ 3 สัปดาห์” โฆษกของผู้ค้าอาหารทะเลรายใหญ่กล่าว พร้อมเสริมว่าบริษัทมีแผนที่จะหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเหล่านี้โดยเปลี่ยนเส้นทางการจัดส่งไปยังประเทศที่สาม
ด้วยที่ญี่ปุ่นกำหนดจะเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีจากฟุกุชิมะในอีกไม่กี่สัปดาห์ ร้านอาหารญี่ปุ่นบางแห่งกล่าวว่าพวกเขากำลังปรับเปลี่ยนเมนูและจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งอื่นเพื่อความอยู่รอด
“เป้าหมายหลักของเราคือการจัดหาแหล่งอาหารทะเลภายในประเทศจีนหรือการจัดหาจากซัพพลายเออร์ต่างประเทศอื่นๆ… หากความพยายามเหล่านี้สำเร็จ มีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจของเราจะดำเนินต่อไปได้ในอนาคต” ทานิโอกะ กล่าว