Newsพบ “กางเกงช้าง” บุกตุรกี หลังจากตีตลาดยุโรป-เอเชียแตกไปแล้ว

พบ “กางเกงช้าง” บุกตุรกี หลังจากตีตลาดยุโรป-เอเชียแตกไปแล้ว

แฟชัน การแต่งกายถือได้ว่าเป็น Soft Power หนึ่งของประเทศ และ “กางเกงช้าง” ได้ขึ้นแท่นกลายเป็นตัวแทน Soft Power สายแฟชันตัวแทนประเทศไทยที่โดดเด่นไปแล้วในเวลานี้

 

กางเกงช้าง ทำมาจากผ้าฝ้าย พิมพ์ลายช้างผสมผสานกับลายไทยได้อย่างลงตัว และปัจจุบันมีหลายสีให้เลือกใส่ ซึ่งนอกจากจะเป็นลายที่สวยงาม แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างโดดเด่นแล้ว ยังมีจุดแข็งที่เป็นผ้าเนื้อเบา ระบายความร้อนได้ดี สวมใส่สบาย สามารถสวมใส่แบบลำลอง หรือมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ในหลายโอกาส จึงเป็นที่นิยมของคนไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้

อย่างไรก็ตาม กางเกงช้าง กลายเป็นกระแส เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ จากการเปิดประเทศของรัฐบาล ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในปี 65 ที่ผ่านมา ซึ่งในปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยมากถึง 11 ล้านคน นักท่องเที่ยวบางกลุ่มไม่ทราบถึงระเบียบการแต่งกายในการเยี่ยมชมวัดพระแก้ว และแต่งกายไม่เรียบร้อย จึงหาซื้อกางเกงช้างเพื่อการเข้าเยี่ยมชม แล้วยังใส่เดินท่องเที่ยวต่อ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ เห็นแล้วสนใจ จนหาซื้อเพื่อใส่เที่ยวตาม ๆ กันจนกลายเป็นกระแส

 

ความนิยมของกางเกงช้างพุ่งแรงขึ้นไปอีก หลังศิลปินไอดอลชื่อกังอย่าง แจ๊คสัน หวัง หรือ หนุ่ม เตนท์ จากวง WayV จากเกาหลีใต้สวมใส่ ทำให้ความต้องการกางเกงช้างพุ่งไกลไปจนถึงต่างประเทศ

 

เดือนมีนาคมที่ผ่านมา นางสาวกิ่งกาญจน์ สมร ผู้บริหารบริษัทชินรดา โรงงานผลิตกางเกงช้างรายใหญ่ใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า โรงงานได้รับคำสั่งซื้อมาจากยุโรป-เอเชีย จนผลิตแทบไม่ทัน

 

โดยชาวต่างชาติเรียกหากางเกงช้างในชื่อ “Chang Pants” หรือ “Elephant Pants” ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ชื่อของช้างไทย จะติดตลาดโลกไปด้วยผ่านกางเกงช้างนี้เอง

ล่าสุด ม.ล.ธีรเชษฐ์ โสณกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท บิ๊กเจท ทราเวล ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก  M.L. Thirachet Sonakul เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยข้อความว่า “และแล้วกางเกงช้างบ้านเราก็ได้มาถึงตุรกี แล้วมาผสมพันธ์กับอูฐที่นี่” พร้อมโพสต์ภาพการเกงช้างที่วางขายในประเทศตุรกี

 

ซึ่งนี่สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสและตลาดใหม่ของกางเกงช้าง ในประเทศตุรกี และอาจจะขยายเข้าสู่ประเทศอื่น ๆ ที่เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกด้วย

 

สำหรับรัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม มีแผนงานในการผลักดัน Soft Power ไทย ออกสู่ตลาดโลกผ่านโครงการ “THAI 5F SOFT POWER” นำเสนอเสน่ห์ของวัฒนธรรม 5F ได้แก่ F-Food อาหาร, F-Film ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์, F-Fashion การออกแบบแฟชั่นไทย, F-Fighting ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ F-Festival เทศกาลประเพณีไทยอีกด้วย




เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า