
นักลงทุนมีความเชื่อมั่นระดับร้อนแรง ‘กอบศักดิ์’ ชี้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น หลังตั้งรัฐบาลได้ชัดเจน เศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางฟื้นตัว
วันที่ 6 ก.ย. 66 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุน และสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุน ในงานแถลงข่าว FETCO ประจำเดือนกันยายน 2566 สรุปใจความสำคัญ ดังนี้
ผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุน
หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ “ร้อนแรง” นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยวที่จะถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายปีนี้
ในส่วนของปัจจัยด้านลบมาจากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนเกี่ยวกับวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ ความกังวลเรื่องสถานการณ์การเมืองที่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ รวมทั้งความกังวลเรื่องการเก็บภาษีขายหุ้นที่ยังคงค้างคา
สถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุน
– ด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกพอสมควร โดยสะท้อนผ่านภาคการผลิตและการส่งออกที่หดตัวลง แต่ภาคธนาคารยังคงดีอยู่ เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
– สถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 15.4 ล้านคน ถือว่าทะลุเกินยอดของปีที่เแล้วเรียบร้อย และอีก 5 เดือนที่เหลือของปี ประเมินว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่ระดับ 29-30 ล้านคนได้
– ภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกตั้งแต่กลางปีที่แล้ว โดยปรับตัวลดลงเกือบ 18% แต่หลังจากนั้น เมื่อช่วงต้นปีผลจากเศรษฐกิจจีนปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้การส่งออกของไทยปรับตัวดีขึ้นมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดที่เคยปรับตัวลงไป ทำให้ไทยเริ่มประคองตัวเองได้
– ด้านเงินเฟ้อไทยล่าสุดอยู่ที่ 0.2-0.7% ถือว่าอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท. ที่ 1-3% ทำให้ไม่มีความจำเป็นในการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสู้เงินเฟ้อ แต่หากมีการปรับจะเป็นการปรับเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจระยะยาวเป็นหลัก
– ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ที่ประมาณ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าอยู่ในอัตราที่เหมาะสม และดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงทรงตัว ทั้งนี้ ผลของภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวจะช่วยให้มีเงินไหลเข้าสู่ประเทศ ทำให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพในระยะต่อไป
ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยจึงถือว่ายังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว ตามการใช้จ่ายในประเทศและภาคบริการที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง สะท้อนว่าไทยสามารถรับผลกระทบจากการชะลอตัวเศรษฐกิจโลกได้ดีพอสมควร