
ยุคมืดตลาด influencer อินฟลูฯ ธุรกิจชี้อินฟลูฯ ไม่ได้มีอิทธิพลต่อตลาดเหมือนยุคแรก แนะ 3 ข้อเพื่อทำการตลาดโซเชีลยมีเดียให้คุ้มค่าเงิน
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2567 นายโจ จิตนารินทร์ อินฟลูเอ็นเซอร์ด้านการบริหารธุรกิจ เจ้าของช่องยูทูป I am Joe Jitnarin ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอของเขาผ่านช่องยูทูป โดยมีพาดหัวว่า “ยุคมืดตลาด influencer ลูกค้าไม่เชื่อ จ้างแล้วไม่คุ้ม ไปต่อหรือพอแค่นี้?”
นายโจกล่าวว่า เขาเห็นวงการการตลาดมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ที่อินฟลูเอ็นเซอร์ (Influencer) เข้ามามีบทบาทในตลาด จนถึงวันนี้ที่มีอินฟลูเอ็นเซอร์เกลื่ยนตลาดไปหมด เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายจนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้ว โดยในยุคแรก ๆ นั้นคำพูดของอินฟลูเอ็นเซอร์นั้นมีความน่าเชื่อถือ สามารถชักจูงให้คนเข้ามาซื้อสินค้าที่ตนเองโปรโมทได้
“คนในตลาดทุกวันนี้เขาไม่ได้เชื่อคำพูดของอินฟลูเอ็นเซอร์อีกต่อไป” นายโจกล่าว และกล่าวว่าผู้ว่าจ้างมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด อีกทั้งระบุว่าคนส่วนใหญ่ในตลาดมักจะคิดว่าคนที่มีผู้ติดตามเยอะคืออินฟลูเอ็นเซอร์
ในขณะที่ความหมายในทางการตลาด อินฟลูเอ็นเซอร์หมายถึงบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อผู้ติดตามของเขา ซึ่งในสมัยนี้อิทธิพลของอินฟลูเอ็นเซอร์ต่อผู้ติดตามนั้นลดลงมากกว่าสมัยก่อนมาก
“ในทุกวันนี้หลาย ๆ คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ เค้าไม่ใช่อินฟลูเอ็นเซอร์นะครับ เค้าเป็นแค่เอ็นเตอร์เทนเนอร์ (ผู้ให้ความบันเทิง) เท่านั้นเอง” นายโจกล่าว ก่อนที่จะเน้นให้มีการพิจารณาอิทธิพลทางความคิดที่เขามีต่อผู้ติดตาม ซึ่งจะสามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นยอดขายได้
นายโจฉายภาพให้เห็นโฆษณาการเพิ่มยอดผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก่อนที่จะระบุว่ายอดผู้ติดตามในสมัยนี้เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่สามารถเปลี่ยนเป็นยอดขายได้น้อยมาก ไม่คุ้มค่ากับการจ่ายในราคาแพง อีกทั้งยังเป็นวิธีการทั่ว ๆ ไปในการทำการตลาดในสมัยนี้ ทำให้ประสิทธิภาพนั้นตกลงไป
หลาย ๆ ธุรกิจ เอาตังค์ไปยิงแอด (ยิงโฆษณา) ยังจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากกว่าแต่ส่วนใหญ่ใช้อินฟลูฯ เพียงเพราะว่าคู่แข่งก็ทำ และถึงหยุดทำไป ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไร จะมีก็เพียงธุรกิจแฟชั่นความงาม ที่มีความจำเป็นต้องใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงและหน้าตาดี
อย่างไรก็ดี นายโจกล่าวว่าอินฟลูฯ ยังมีบทบาทในทางการตลาดอยู่ แต่จำเป็นที่จะต้องคัดสรรให้มากขึ้น โดยให้ข้อเสนอแนะ 3 ข้อ
1 อย่าเชื่อเอเจนซี่ ทำเองดีที่สุด
นายโจยกตัวอย่างตนเองที่ได้รับการติดต่อเข้ามาจากตัวแทนของบริษัทเอเจนซี่เพื่อการโฆษณา แต่เขาพบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับตัวเขาเองมากนัก จึงไม่เชื่อว่าเอเจนซี่เหล่านี้จะเข้าใจในตัวเขาได้ดี และถึงแม้ว่าจะมีบริษัทเอเจนซี่ดี ๆ แต่ผู้จ้างเองก็ต้องใช้เวลาในการคัดเลือกเช่นกัน จึงเชื่อว่าผู้จ้างเอาเวลามาเลือกอินฟลูฯ เองจะดีมากกว่า
2 ดูความสัมพันธ์ระหว่างอินฟลูกับผู้ติดตาม อย่าดูแค่ยอดวิว
นายโจกล่าวว่าต้องดูความเสมอต้นเสมอปลายของยอดวิว ซึ่งบ่งบอกให้เห็นว่ามีคนรอรับชมอินฟลูฯ คนนี้มากแค่ไหน และให้ดูผู้คอมเมนต์ว่าส่วนใหญ่เป็นคนเก่า หรือคนใหม่ ถ้าเป็นคนเก่าเยอะ หมายความว่ามีฐานแฟนคลับที่ดี แต่ถ้ามีแต่หน้าใหม่ และแสดงความเห็นที่ไม่เกี่ยวกับตัวเจ้าของช่องเลย พูดถึงแต่ชื่อวีดีโอ นั่นหมายความว่าคน ๆ นั้นไม่ได้มีอิทธิพลทางความคิดเลย
3 เน้นชื่อเสียงไม่ได้ ก็ให้เน้นจำนวน
นายโจ แนะนำว่า ในบางกรณีควรจ้างอินฟลูฯ ในราคาถูกหลายคน เพื่อการสร้างความถี่การรับรู้ของลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าของเราได้บ่อยขึ้น สร้างการรับรู้ให้มากขึ้น และเปิดใจให้กับแบรนด์ของเราได้มากขึ้น อีกทั้งเป็นการช่วยกระตุ้นอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์ม ซึ่งวิธีนี้ได้ผลคุ้มค่าเงินมากกว่า