ตั้งเป้าเป็น Big Three Hyundai ตั้งเป้าขึ้นแท่น 1 ใน 3 ผู้ผลิต EV รายใหญ่ที่สุดโลกให้ได้ภายในปี 2030
บริษัทฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ กำลังทุ่มทุนในการวิจัยและพัฒนา, สร้างโรงงานและแพลตฟอร์มใหม่ ตลอดจนขยายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และกำลังการผลิต โดยตั้งเป้าที่จะเป็นหนึ่งในสามผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลกภายในปี 2030
“ตอนนี้เรากำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม EV ใหม่ 2 แพลตฟอร์ม และนั่นจะทำให้เรามีรถ 18 รุ่นภายในปี 2030 และเราตั้งเป้าที่จะบรรลุยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 2 ล้านคัน/ปี ภายในปี 2030” แจฮุน ชาง ซีอีโอของ Hyundai Motor Company กล่าวกับ CNBC
ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าของฮุนไดได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มขั้นสูง Hyundai Electric Global Modular Platform (E-GMP) โดย 2021 Hyundai Ioniq 5 รถยนต์ crossover SUV ระบบพลังงานไฟฟ้า เป็นรถที่เน้น EV รุ่นแรกในแบรนด์ย่อย “Ioniq” ที่ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม E-GMP
“สิ่งสำคัญคือเราต้องมีแพลตฟอร์ม EV โดยเฉพาะ” นายชาง กล่าวพร้อมเสริมว่า “E-GMP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม EV ของเรา เป็นตัวขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นตัวขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งมากสำหรับอนาคตเช่นกัน”
ฮุนไดวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ในปี 2025 โดยใช้แพลตฟอร์ม EV ใหม่ 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่ eM และ eS ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การพัฒนารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดต้นทุนได้มากขึ้น
Hyundai Motor Group ซึ่งมีแบรนด์รถยนต์ Hyundai, Kia รวมถึงแบรด์หรู Genesis อยู่ในอันดับที่ 6 ในการจัดอันดับยอดขาย EV ทั่วโลกในปี 2565 โดย SNE Research ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า 510,000 คันในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 40.9% จากปีก่อนหน้า
ขณะที่อันดับ 1 ตกเป็นของ BYD ของจีน ซึ่งส่งมอบ 1.87 ล้านคัน ตามมาด้วยเทสล่า และโฟล์คสวาเกน
นายชาง กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี หรือ EBIT เติบโตขึ้นปีละ 50% ซึ่งได้แรงหนุนมาจากผลิตภัณฑ์ของเราเป็นหลัก โดยเฉพาะ Hyundai Ioniq 5 และ Hyundai Ioniq 6 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
“เราจะยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตไว้ได้ เรามี “Ioniq 7” SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่สุดของ Hyundai ที่มาพร้อมกับเบาะ 3 แถว ซึ่งคาดว่าจะออกสู่ตลาดในปีหน้า นี่เป็นมุมมองระยะสั้นของสิ่งที่เรากำลังดำเนินการอยู่” นายชาง กล่าว
Hyundai Motor Group ที่ครั้งหนึ่งเคยประสบปัญหา ได้แอบตามหลังโตโยต้าและโฟล์กสวาเกนอย่างเงียบๆ และกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลกในแง่ยอดขายในปี 2022
ฮุนไดและเกีย ขายรถยนต์ได้ทั้งหมด 6.85 ล้านคันทั่วโลกในปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.7% จากปีที่แล้ว ขณะที่โตโยต้าและโฟล์คสวาเก้น ขายได้ 10.5 ล้านคัน และ 8.26 ล้านคัน ตามลำดับ