Here We Go 76 เพื่อไทย – เสือติดปีก VS ก้าวไกล – หมาป่าเดียวดาย
อยากจะเริ่มถ้อยความอันเป็นมงคลบางส่วนจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคมเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2566 สรุปว่า การสร้างสรรค์จรรโลงความผาสุกมั่นคงของชาติบ้านเมือง ถือว่าเป็นกรณียกิจอันสำคัญสูงสุด หากทุกหมู่เหล่าได้ตั้งตัวตั้งใจให้มั่นคงที่จะประพฤติปฏิบัติเฉพาะสิ่งที่ควรพิจารณาแล้วด้วยสติปัญญาและวิจารณญาณว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้องแล้ว ความเจริญมั่นคงของประเทศและความร่มเย็นเป็นสุขของประชาชนก็จะสำเร็จผลสมบูรณ์
คนในวงการเมืองควรต้องน้อมนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติในภารกิจของแต่ละคน ซึ่งสัปดาห์อันเป็นมงคลที่ผ่านมา แต่ละหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน แม้แต่พรรคการเมืองต่างแสดงออกถึงการเคารพ เทิดทูนต่อพระองค์ผ่านหน้าเพจของพรรค ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกพรรคที่แสดงออกถึงการให้ความสำคัญของวันนี้
—–
ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับกัมพูชาที่เปลี่ยนผ่านรัฐบาลได้ด้วยความเรียบร้อยแม้จะจัดการเลือกตั้งหลังประเทศไทยแต่ก็สามารถตั้งรัฐบาลได้รวดเร็ว ส่วนของไทยยังคาดเดาหน้าตาของรัฐบาลใหม่ไม่ถูก ต้องยอมรับว่าการเมืองไทยตอนนี้เปลี่ยนทุกวัน มีตัวแปรให้ต้องเฝ้าดูทุกนาที ไม่รู้ว่าจะเป็นรัฐบาลขั้วเดิม เพิ่มขั้ว ผสมขั้ว หรือข้ามขั้วบางส่วน ก็ยังคาดเดาไม่ออก
การต่อรองทางการเมืองเกิดขึ้นทุกที่ที่ผู้แทนของประชาชนมีความเห็นต่างกันไม่ว่าเสียงส่วนใหญ่หรือเสียงส่วนน้อยต้องรับฟังซึ่งกันและกัน ที่สำคัญต้องยอมรับในกฎกติกาที่สังคมนั้นๆ ยอมรับ ไม่เช่นนั้นความสงบจะไม่เกิด
ก่อนจะไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คงต้องผ่านเรื่องของการรับรองนายกรัฐมนตรีไปก่อน คงเป็นที่ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ 2 คงไม่ยอมปล่อยให้ตำแหน่งนี้ตกไปอยู่ในมือของพรรคอื่นอย่างแน่นอน
—–
สัปดาห์ที่ผ่านมาความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาลดูเหมือนมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมากกว่าที่ช่วงเวลาที่ผ่านมา หลังจากที่มีข่าวว่าเกิดมีดีลพิเศษของผู้มีอำนาจนอกพรรคของทั้ง 2 พรรคการเมืองคือ พรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทยได้พบกันนอกประเทศ
การต่อรองได้เกิดขึ้นระหว่างพรรคเพื่อไทยที่กำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบกุมอำนาจต่อรองได้ในทุกด้านยิ่งได้คุณทักษิณเข้ามาเป็นกุนซือให้เปรียบเหมือนพยัคฆ์ติดปีกน่าเกรงขามมากขึ้น กับพรรคก้าวไกลที่เริ่มเสียเปรียบอำนาจต่อรองทุกทางคุณพิธาหัวหน้าพรรคกำลังจะโดนคดีส่วนตัว ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีคดีอื่นที่ลุกลามกระทบถึงสถานภาพของพรรคหรือไม่ มาเจอเรื่องที่ต้องเสียที่นั่ง สส.ของพรรคจากเหตุขาดคุณสมบัติไปแล้ว 1 คน และอาจมีเพิ่มอีก
ยังมี ส.ส.ตัวตึงของพรรคถูกแฉจากพวกเดียวกันเองว่าร่วมกับนายทุนหนีคดีมาตรา 112 กับ NGO ต่างประเทศวางแผนล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ อาจจะเป็นอีกคดีหนึ่งที่อนาคตจะทำให้พรรคถูกยุบ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เกิดจากการกระทำของคนในพรรคทั้งนั้น
—–
สัปดาห์นี้น่าจะได้เห็นหน้าของนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แล้ว ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง แต่หากรับคำร้องแล้วให้กระบวนการเสนอญัตติต้องหยุดลงก่อนเพื่อรอฟังคำวินิจฉัยก็คงต้องร้องเพลงรอต่อไปก่อน เพราะดีลจากคนแดนไกลน่าจะได้ข้อยุติ ไม่อย่างนั้นคุณทักษิณคงไม่กล้าประกาศกำหนดวันชัดเจนว่าจะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 ส.ค.นี้แน่นอน
คงคาดคะเนแล้วว่าถึงตอนนั้นหนทางทุกอย่างน่าจะเปิดโล่งให้พอสมควร กลับมาถูกคุมขังคงไม่ได้ลำบากเหมือนนักโทษคนอื่นแน่นอน ดีไม่ดีสัปดาห์หน้าคงจะได้เห็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีไปอยู่นอกประเทศเสียนานได้กลับมารับโทษตามกฎหมายแล้ว
—–
ส่วนการตั้งรัฐบาลคงไม่นานนักก็จะได้เห็นว่าใครเป็นใคร แต่ตอนนี้กระแสข้ามขั้วมาแรงมาก สาเหตุสำคัญเป็นเพราะพรรคก้าวไกลที่ไม่มีพรรคไหนต้องการร่วมสังฆกรรมทางการเมืองด้วย
ทุกพรรคต่างส่ายหน้าปฏิเสธ เพื่อนๆ มีการส่งสัญญาณให้ยกเลิกนโยบายแก้ไขมาตรา 112 หลายครั้ง แกนนำพรรคก็ไม่ยอม จะอย่างไรก็จะต้องผลักดันเรื่องนี้ให้ได้ ต้องทำทันที นโยบายปากท้องประชาชนที่เคยหาเสียงไว้มาทีหลังสำคัญน้อยกว่า ทำให้หลายคนเริ่มเชื่อแล้วว่าพรรคก้าวไกลรับงานมาจากต่างประเทศแบบที่เขากล่าวอ้างกัน
ที่คุณพิธาออกมาพูดว่า แก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ได้รับการยกย่องมากยิ่งขึ้นเห็นท่าจะไม่เป็นดังที่พูด ความต้องการที่อยากรื้อเลิกมาตรา 112 ให้ได้แสดงออกด้วยการประกาศยอมรอให้ สว.หมดอำนาจไปก่อนอีก 10 เดือนข้างหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเร่งให้ กกต.รับรองผลเลือกตั้งจะได้นำทีมจัดตั้งรัฐบาลอ้างว่าประชาชนเดือดร้อนจากรัฐบาลคุณประยุทธ์เต็มที่แล้ว
ครั้นพอนำทีมตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะมาตรา 112 กลับจะมา ยอมรอ 10 เดือน ไม่ได้สนใจเรื่องของประชาชนอีกต่อไปแล้ว นี่คือรูปแบบการ สร้างวาทะกรรมหลอกให้คนหลงเชื่อเพื่อการเข้าสู่อำนาจเพื่อประโยชน์ตนเอง
จะว่าไปแล้วพรรคก้าวไกลเป็นอีกพรรคหนึ่งที่มีวิธีบริหารจัดการพรรคแบบแปลกๆ สส.ของพรรคมักไม่ค่อยมีปากเสียง คำสั่งมาจากผู้มีอิทธิพลนอกพรรค และผู้นำทางจิตวิญาณของพรรคเป็นคนกำหนดทิศทาง สส.ที่ได้รับเลือกตั้งอยากจะแสดงฝีมือช่วยเหลือดูแลประชาชนคงต้องหันไปแสดงฝีปากก้าวร้าวดุดันในสภาแทน
หลังจากนี้พรรคก้าวไกลต้องหาประเด็นใหม่ คนใหม่มาแทนคุณพิธา เพราะจะหายไปจากกระแสข่าวการเมือง ถูกกระแสของพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณเข้ามากลบแทน คงต้องกระโดดเข้าไปอยู่ในโลกโซเชียล กับด้อมทั้งหลาย และออกมาปรากฏตัวเป็นระยะช่วงมีการชุมนุมเพื่อไม่ให้ถูกลืมถาวร