NewsHere we Go (59) เบื้องหลังขบวนการทำลายสถาบัน จากกรณีการพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว และแผนนิรโทษกรรม ของโทนี่ วูดซัม

Here we Go (59) เบื้องหลังขบวนการทำลายสถาบัน จากกรณีการพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว และแผนนิรโทษกรรม ของโทนี่ วูดซัม

 

อาทิตย์นี้ขอเริ่มด้วยเรื่องผู้ป่วยจิตเวชไปพ่นสีสเปรย์ที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง ไม่ต้องไปบอกว่าพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว ผู้ป่วยคนนี้ตั้งใจเขียนกำแพงวัง ข้อความก็บ่งบอกเรื่องที่อยากสื่ออยู่แล้ว 

 

ชายที่ป่วยทางจิตคนนี้ไม่ใช่ศิลปิน อย่าไปทำให้คำว่าศิลปินผิดเพี้ยนไปจากความหมายที่แท้จริง เขาเป็นคนป่วยทางจิตที่ชอบเขียนข้อความหรือวาดรูปเรื่องราวที่กระแสสังคมให้ความสนใจ เพราะอยากให้คนสนใจเห็นความสามารถ ไม่ได้มีวิจารณญาณว่าอะไรผิดอะไรถูกอะไรสมควร ทำแล้วมีคนยุว่าดีงาม ก็ยิ่งทำ คนป่วยเช่นนี้มีมากอยู่ในสังคมไทย

 

มีอีกคนที่ขอพูดถึง เป็นอาจารย์อาวุโสมากๆคนหนึ่ง แต่พฤติกรรมที่น่าติเตียนเช่นเดียวกัน ชอบให้วาจายุแยงส่งเสริมให้เหล่าลูกศิษย์ออกไปเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เขาพูดถึงงานที่ผู้ป่วยคนนี้เขียนบนกำแพงว่า “การมีอำนาจที่ต้องพึ่งพากฎหมายเลขท้ายสามตัวเป็นที่ตั้ง แสดงว่าฐานรากที่มีอยู่มายาวนานกร่อนทรุดแล้ว” 

 

ข้อความที่ว่านี้เป็นการไม่พูดความจริง มุ่งหวังที่จะล้มล้างรากฐานสำคัญของชาติบ้านเมือง ไม่ได้มีความเป็นอาจารย์ที่ควรมุ่งสร้างความจริงและความรู้ให้สังคม เขาอายุมากเกินเลข 6 มีความรู้ระดับปริญญาเอก เขาต้องเข้าใจตระหนักรู้อยู่แล้วว่า บ้านเมืองไม่ได้ปกครองด้วยมาตรา 112 เพียงมาตราเดียว 

 

รัฐบาลไม่ได้ใช้กฎหมายมาตราเดียวปกครองประเทศ กฎหมายมาตรานี้ถูกใช้เพื่อปกป้องการดูหมิ่นเหยียดหยามพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ชั้นสูงอีกบางพระองค์เท่านั้น เอาไว้ใช้กับคนบางคนที่เป็นส่วนน้อยนิดในสังคม 

 

ทั้งใช้บังคับแบบให้โอกาสปรับเนื้อปรับตัว แก้ไขการกระทำ ถ้าจำเป็นต้องลงโทษก็พิจารณาพฤติกรรมแห่งคดีอย่างรอบคอบและมีเมตตา บ้านเมืองนี้จึงไม่ได้ใช้มาตรา 112 เป็นสรณะสุดท้าย เขาช่างบิดเบือนได้เด็ดขาดจริงๆ 

 

เขายังเลือกใช้คำว่า “ฐานรากกร่อนทรุดแล้ว” เพราะใช้มาตรา 112 ปกครองบ้านเมือง ความเห็นและตีความการกระทำของคนป่วยทางจิตที่เขียนกำแพงวังว่าสถาบันพระมหากษัตริย์กร่อนและทรุดแล้ว แสดงถึงความรู้สึกในใจที่ต้องการล้มล้างตำนานและประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติบ้านเมือง ล้มล้างการปกครอง เขียนเพื่อส่งสัญญาณไปยังลูกศิษย์ลูกหาให้เชื่อว่า จงทำกันต่อไปสถาบันกำลังทรุดลงแล้ว 

 

อาจารย์คนนี้และพวกพ้องของเขาก็รู้ว่ามันไม่จริง สถาบันไม่ได้กร่อนทรุดดังว่า แต่เขาและพวกใช้ช่วงของการเปลี่ยนรัชกาลระดมความรู้ ความคิดเห็น วาทกรรม บ่อนทำลายสถาบันให้ทรุดลง อาศัยเสรีภาพของประเทศที่เปิดกว้าง สังคมที่ยึดหลักเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา ระดมลูกศิษย์ลูกหาออกมาทำกิจกรรมสารพัดอย่าง 

 

เพียงหวังอย่างเดียวคือทำให้เกิดภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่กร่อนทรุด แต่ความจริงก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ เขาและพวกทำมาร่วมเจ็ดแปดปี ความมั่นคงแข็งแรงก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม สิ่งที่พวกเขาได้คือภาพวาดที่เขาและพวกอยากให้สังคมเห็น

 

สถาบันพระมหากษัตริย์ยังเป็นที่เคารพรัก เทิดทูน ขณะเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีคนไทยบางส่วนที่มีความเชื่อแบบที่เขาและพวกต้องการ การต่อสู้ทางความคิดจะมีและไม่หายไปไหน ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะมันเป็นไปตามธรรมชาติ 

 

เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องช่วยกันสร้างความตระหนักรู้ เยาวชนคนรุ่นใหม่คือความหวังของชาติ ไม่ใช่เป็นความหวังของคนไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองเพียงฝ่ายเดียว 

 

มีเยาวชนคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เรียนรู้ความจริงของประวัติศาสตร์มากยิ่งขึ้นเด็กหนุ่มสาวไปวัดไหว้พระ ไปพระบรมมหาราชวัง ไปวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ ไปพิพิธภัณฑ์ ไปอยุธยา สุโขทัย พิษณุโลก เชียงใหม่ 

 

ภาพเช่นนี้เกิดขึ้นทุกวัน เป็นความหวังของชาติที่พวกเขาได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ พวกเขาได้เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ชีวิตที่เขาต้องอยู่กับปัจจุบัน ความมั่นคงที่ต้องมีในอนาคต อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นเรื่องที่ผูกพัน เชื่อมโยง เกื้อกูลซึ่งกันและกันตลอดไป รากฐานของชาติไม่ได้กร่อนทรุดอย่างที่เขาและพวกเขาอยากให้เป็น

 

———-

ทรัมป์ และ โทนี่ คู่เหมือนที่อยู่ต่างแดน

———-

 

มาดูการเมืองกันบ้าง สัปดาห์ที่แล้วสะดุดใจกับเรื่องที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ คุณโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ช่องทางสื่อสารส่วนตัวเรียกให้บรรดาแฟนคลับออกมาประท้วงลงถนนเพราะได้ยินว่าสำนักงานอัยการแมนฮัตตันเตรียมจะเข้าจับกุมตนเองในคดีที่เกี่ยวพันกับการจ่ายเงินค่าปิดปากให้ดาราที่ประกาศจะออกมาแฉเรื่องความสัมพันธ์พิเศษช่วงหาเสียงเลือกตั้ง 

 

การปลุกระดมนี้ทำให้แฟนคลับออกมารวมตัวกันที่ศาลกรุงนิวยอร์ก และยังทำให้ตำรวจในเมืองใหญ่ๆ ที่คุณทรัมป์มีแฟนคลับต้องเตรียมกำลังเพื่อป้องกันการจราจลอีกด้วย 

 

เนื่องจากเคยมีบทเรียนที่คุณทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งแล้วบอกให้กลุ่มคนที่สนับสนุนตนเองบุกรัฐสภา จนทำให้เกิดเหตุวุ่นวายในรัฐสภา มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต กลายเป็นรอยด่างทางประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศที่ถูกยกย่องว่าเป็นแม่แบบของประชาธิปไตย 

 

หลังจากนั้นไม่กี่วันการเมืองไทยก็เกิดประเด็นที่ดูเหมือนเป็นคนละเรื่องเดียวกันคือคุณโทนี่ คนแดนไกลออกมาพูดผ่านสื่อสัญชาติญี่ปุ่นว่า หลังจากเลือกตั้งแล้วจะกลับมาติดคุกในไทยโดยที่ไม่ขอนิรโทษกรรม หลังจากหลบหนีออกจากประเทศไปแล้ว 16 ปี 

 

กลายเป็นประเด็นวิจารณ์กันมากมาย แต่ส่วนใหญ่ลงความเห็นกันว่าเป็นการหาเสียงขอความเห็นใจมวลชน เป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ถ้าจะกลับไม่ต้องหลังเลือกตั้ง คุกที่คุมขังก่อนเลือกตั้งหรือหลังเลือกตั้งมีสภาพเหมือนเดิมพร้อมให้บริการ เว้นแต่รอให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลอาจจะใช้อำนาจทางการเมืองทำให้ไม่ต้องติดคุกคุมขังจริงเหมือนนักโทษทั่วไป 

 

อย่าลืมว่าคุณโทนี่เคยประกาศ จะไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว และยังไปพูดที่มหาวิทยาลัยเคนตั๊กกี้เมื่อปี 61 ด้วยว่า จะไม่ยอมให้น้องสาว (คุณยิ่งลักษณ์) ผมติดคุกแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่วินาทีเดียว

 

สิ่งที่คุณทรัมป์กับคุณโทนี่เป็นเหมือนกันคือ ต่างเป็นอดีตผู้นำประเทศที่ใช้สื่อโซเชียลเก่งเหมือนกัน มีคดีติดตัวที่เกิดจากการเข้าไปใช้อำนาจเชิงบริหารเหมือนกัน มีวิญญาณความเป็นนักธุรกิจคิดกำไรขาดทุนเหมือนกัน คิดเหมือนกันตลอดเวลาว่าโดนกลั่นแกล้งทางการเมือง ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของประเทศ 

 

ยอมที่จะให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ให้ประชาชนเป็นเกราะกำบังตนหากตนเองไม่ได้รับประโยชน์ที่ต้องการ มีเพียงบางเรื่องที่คุณทรัมป์กับคุณโทนี่แตกต่างกันก็คือ คนหนึ่งยังคอยปลุกระดมแฟนคลับอยู่ในประเทศ แต่อีกคนหลบหนีไปอยู่นอกประเทศคอยบงการพรรคการเมืองที่อยู่ในไทย

 

———-

แนวคิดเรื่องการนิรโทษกรรมหลังเลือกตั้ง

———-

 

พรรคเพื่อไทยใครๆ ก็รู้ว่าเป็นพรรคครอบครัว รู้ดีว่าใครเป็นเจ้าของพรรคตัวจริง พอคุณโทนี่พูดแบบนี้ไม่มีใครกล้าแสดงความเห็นต่อ มีบทเรียนจากก่อนหน้านี้ที่คุณอุ๊งอิ๊งประกาศภารกิจจะพาพ่อกลับบ้าน เหมือนจะบอกว่าว่าปัญหาประชาชนมาทีหลังไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทำให้คะแนนเสียงของพรรคหดหายไปทันที 

 

เวลานี้จึงไม่อยากมีใครพูดถึงเรื่องพาคุณโทนี่กลับบ้านอีก ไม่เชื่อให้ใครลองไปสอบถามนโยบายเรื่องพาคุณโทนี่กลับบ้านหรือถามถึงนโยบายดำเนินคดีกับนักโทษหนีคดีต่างๆที่หลบหนีอยู่นอกประเทศขณะนี้จะทำอย่างไร รับรองได้ว่าไม่มีคำตอบเรื่องนี้ 

 

แต่ก็น่าคิดต่อไปว่าสิ่งที่คุณโทนี่ประกาศออกมาคงต้องวางแผนไว้แล้วว่าจะทำอย่างไรที่กลับมาไทยแล้วไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรม 

 

มีคนแอบกระซิบว่าก็ให้พรรคเพื่อไทยชวน พรรคการเมืองอื่นทำรัฐธรรมนูญใหม่ไปเลย มีหลายพรรคที่ต้องการแก้ไขอยู่แล้ว แต่ละพรรคมีประเด็นต่างกันไป งานนี้ไม่มีฝ่ายรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่มีเหลือง ไม่มีแดง ทุกคนได้ประโยชน์ ทำตอน ส.ว.หมดอำนาจไปแล้วยิ่งง่ายใหญ่ ยิ่งบางพรรคชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง โอกาสสำเร็จยิ่งมีมาก 

 

ถึงตอนนั้นก็คาดเดาไม่ได้ว่าความวุ่นวายจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่าเหมือนตอนทำกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ทำทุจริตแล้วให้คนอื่นติดคุก ให้ประชาชนใช้หนี้ที่เกิดจากการฉ้อฉล คนคิด คนสั่งการใช้เงินลอยนวล 

 

ถ้าเป็นแบบนี้เค้าลางความวุ่นวายของไทยเริ่มก่อตัวอีกครั้งแน่ๆ ต้องรอดูนโยบายพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้

 

———-

UAE จะมีท่าทีอย่างไรกับการเคลื่อนไหวของทักษิณ?

———-

 

ทาง UAE จะรู้หรือไม่ว่าคุณโทนี่กำลังใช้สถานที่ดูไบควบคุม กำหนดทิศทางการเมืองของบางพรรคการเมืองในไทย ต้องการที่จะเข้าคุมอำนาจการบริหารของไทย 

 

ความคิดบางเรื่อง อย่างเช่นการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งแตกแยกของสังคมที่อาจจะนำไปสู่ความโกลาหลเหมือนปี 52 ที่ใช้วิธีโฟนอินปลุกระดมม็อบคนเสื้อแดงจากบ้านพักที่ดูไบ จนรัฐบาล UAE ต้องเรียกคุณโทนี่ไปพบสั่งห้ามไม่ให้ใช้ดูไบเป็นฐานขับเคลื่อนทางการเมืองอีก 

 

ครั้งนี้ก็ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่หันมาใช้แพลทฟอร์มสื่อโซเชียลอื่นแทน แต่เจตนาไม่ได้แตกต่างกัน กระทรวงการต่างประเทศอาจต้องส่งสัญญาณแจ้งต่อ UAE ให้ช่วยทบทวนความจำของคุณโทนี่อีกสักครั้งคงจะดี



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า