Here We Go 45 พฤติกรรมเยี่ยงอมนุษย์ของบางบุคคล กับรัฐบาลที่ไร้ศักยภาพในการจัดการปัญหา และฝ่ายการเมืองที่หากินกับโศกนาฎกรรม

พักนี้มีข่าวสำคัญที่ทำให้คนไทยรู้สึกตกใจและห่วงใยอย่างมากเกิดขึ้นติดๆ กันต่อเนื่อง ข่าวแรกคือ พระอาการประชวรอย่างกระทันหันของพระองค์ภา เป็นข่าวที่ชาวไทยติดตามใกล้ชิดและทุกคนทุกฝ่ายต่างร่วมกันส่งกำลังใจให้พระองค์หายจากอาการทรงพระประชวรโดยเร็ว 

คนไทยต่างซาบซึ้งในพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงแบ่งเบาภาระของเสด็จปู่และเสด็จพ่อเพื่อคนไทยมายาวนาน ทรงเป็นหลักให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก มาตั้งแต่ปี 2538 ในภารกิจช่วยเหลือคนไทยทุกพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยให้กลับคืนสู่สภาพปกติให้เร็วที่สุด ยึดหลักการแบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน 

แค่ปีนี้ปีเดียวพระองค์ท่านพระราชทานถุงยังชีพผ่านมูลนิธิแล้วประมาณ 54,000 ถุง พระราชทานข้าวกล่องให้ผู้ประสบภัยแล้วมากกว่า 600,000 กล่อง 

แม้ในยามที่พระองค์ทรงพระประชวร มูลนิธิก็ยังคงทำภารกิจที่ทรงมอบไว้ด้วยการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ที่กำลังเผชิญกับพายุฝนกระหน่ำจากมรสุมมีผู้เดือดร้อนมากกว่า 50,000 ครอบครัว ยังไม่นับพระกรณียกิจด้านอื่นอีกมากมายที่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทั้งปวง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

———-
พฤติกรรมเยี่ยงอมนุษย์ของบางคน
———-

ว่าจะไม่เขียนถึงให้เป็นเสนียดปากกาและหน้ากระดาษ แต่นับวันบุคคลทั้งสาม อันได้แก่นายปวิน นายสมศักดิ์ นายแอนดรู กระทำการระรานหัวใจคนไทย มันเลวร้ายเกินไปที่จะหยิบเอาสิ่งที่เขาระราน จาบจ้วง เหยียดหยาม ดูหมิ่น กระทำล่วงเกินในสิ่งที่มิใช่มนุษย์เขาทำกันมากล่าวถึงซ้ำ 

พวกเราคนไทยคงได้อ่าน ได้ยินได้เห็นกันบ้าง วันนี้เจ้าหญิงของพวกเราไม่สบายมาก พระอาการยังทรงตัว อะไรที่คนไทยจะช่วยให้กำลังใจเจ้าหญิงของพวกเราได้ พวกเราก็ช่วยกันทำ คนละไม้คนละมือ 

เราไปรักษาอาการของเจ้าหญิงไม่ได้ เราก็ปล่อยให้คุณหมอเขาทำหน้าที่ แต่เราให้กำลังใจเจ้าหญิงพระองค์นี้ได้ ไปเยี่ยม ไปสวดมนต์ ไปทำความดี ด้วยเหตุผลเดียวที่เชื่อว่ากรรมดีที่ เราทำจะเป็นกำลังใจให้เจ้าหญิงมีพระอาการดีขึ้น คนไทยตั้งความหวังไว้เช่นนั้นจริงๆ 

แต่บุคคลทั้งสามนี้ กลับทำลายความตั้งใจดีของคนไทย พวกเขาเขียนเผยแพร่แต่สิ่งที่เลวร้าย ใส่ความเห็นที่เต็มไปด้วยอคติความเกลียดชัง 

เหล่าสาวกที่คนไทยจะฝากความหวังให้เขาดูแลบ้านเมืองในอนาคตต่อไป กลับสนุกสนานรื่นเริงไปกับการต่อเติมความเห็นที่เพียงเอามัน เอาสนุก เอาความ สะใจ หากอนาคตของชาติมีจิตใจเช่นนี้แล้ว เราจะยังหวังพึ่งพวกเขาสำหรับอนาคตได้อีกหรือ ? 

———-
รัฐบาลไร้ศักยภาพในการรับมือ
———-

รัฐบาลและฝ่ายราชการก็ดูจะยอมพ่ายแพ้ไปกับการหยุดยั้งการกระทำของพวกเขา ได้แต่ให้เหตุผลว่าพวกเขาอยู่ต่างประเทศ กฎหมายเอื้อมไม่ถึง พวกเขามีเทคนิคที่เก่งกาจ เราไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ มีเป็นสิบกระทรวงเนี่ยนะหยุดพวกนั้นไม่ได้ 

คนไทยจึงมีคำถาม ทำไมคนเลวจึงอยู่สบาย ทำความชั่วความเลวได้ทุกวัน ส่วนคนไทยกลุ่มหนึ่งก็เสพความชั่วความเลวนั้นได้ทุกวัน แล้วบ้านเมืองในอนาคตจะเป็นอย่างไร 

ถ้าฝากความหวังกับรัฐบาลนี้ไม่ได้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลชุดใหม่จะจัดการเรื่องแบบนี้อย่างไร เรื่องนี้เรื่องใหญ่ สำคัญต่อความเป็นไปของบ้านเมือง รีบคิดและรีบทำ แก้ปัญหาให้ได้เสียที

———-
เรืออัปปางกับความร่วมแรงร่วมใจของคนไทย
———-

ข่าวที่สองคือ เรือรบหลวงสุโขทัยอับปางที่ทะเลรอยต่อบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับ จ.ชุมพร มีกำลังพลของกองทัพเรือสูญหายประมาณ 20 นาย ซึ่งอยู่ระหว่างการค้นหา สาเหตุสำคัญเกิดจากพายุคลื่นลมในทะเลรุนแรงทำให้น้ำเข้าเรือ เครื่องยนต์เสียหาย เสียการทรงตัวและอับปางในที่สุด 

ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายประเด็นสงสัย ตั้งแต่สาเหตุที่ทำให้เรือรบที่ทันสมัยที่สุดลำหนึ่งต้องอับปาง ประเด็นเสื้อชูชีพที่มีไม่พอกับลูกเรือเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตและสูญหาย ทุกอย่างคงต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงและกู้เรือขึ้นมาก่อน 

แต่ภารกิจสำคัญเร่งด่วนตอนนี้คือ การค้นหาผู้สูญหายให้ครบทุกคน ไม่เฉพาะครอบครัวของทหารเรือ แต่คนไทยทุกคนต่างเอาใจช่วย ประชาชนแถบชายทะเลชุมพร ประจวบ ต่างแสดงน้ำใจคนละไม้คนละมือทำอาหาร ลงขันลงเงิน นำเรือประมง เรือเร็วชายฝั่งออกช่วยค้นหา 

บางโรงแรมเปิดห้องพักให้ทีมค้นหาและญาติๆ ที่มารอฟังข่าวกำลังพลที่สูญหายพักฟรี เป็นที่ปลาบปลื้มที่สุดก็ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีทรงรับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ นี่คือน้ำพระทัยของพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์

———-
ฝ่ายการเมืองที่หากินกับโศกนาฎกรรม
———-

ในขณะที่ทุกคนกำลังสาละวนกับการช่วยเหลือช่วยค้นหา พรรคการเมืองบางพรรคนอกจากจะไม่แสดงความเห็นใจแล้ว ยังฉวยโอกาสนำเรื่องนี้มาใช้เพื่อการหาเสียงทันที ไม่ต้องรอข้อมูลคำชี้แจงใดๆ บางพรรคบอกให้คุณประยุทธ์ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของทหารเรือ 

อยากจะถามว่ามันแตกต่างกันอย่างไรกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ที่เกิดความเสียหายแบบที่ประเมินค่าไม่ได้ นายกในสมัยนั้นที่มาจากพรรคการเมืองที่ยังอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น 

ไม่ใช่ว่าไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ แต่ควรรอเวลาเพื่อความกระจ่างก่อนไม่ดีกว่าหรือ ไม่น่านำเรื่องชีวิตของคนมาหาเสียงแลกกับคะแนนนิยม 

บางพรรคการเมืองยิ่งแล้วไปใหญ่ พูดไปถึงความผิดพลาดของนโยบายบังคับเกณฑ์ทหารที่ควรต้องยกเลิกเพราะเป็นสาเหตุให้เรืออับปาง 

หรือ ส.ส.บางคนที่เก่งเฉพาะบนโลกสื่อโซเชียลพยายามแซะโยงไปให้ถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ส.ส.เหล่านี้หากินกับความเดือดร้อนของผู้อื่น คงต้องรอดูว่าจะมีอนาคตอย่างไร 

———-
โจรใต้กับพรรคการเมืองบางพรรค
———-

ไหนๆ พูดเรื่องทางใต้แล้ว อยากจะลงใต้ไปอีก แถบจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตอนนี้ประสบกับอุทกภัยในหลายพื้นที่ ความช่วยเหลือจากหลายฝ่ายทยอยลงไปจำนวนมาก ปีนี้น้ำท่วมมากกว่าทุกปี กระทบกับภาวะทางเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้พอสมควร 

ช่วง 2 ปีก่อนที่เกิดเหตุโควิดระบาด ประชาชนก็ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว พอสถานการณ์ดีขึ้นการก่อเหตุรุนแรงรายวันก็ตามมาอีก 

การวางระเบิดรางรถไฟที่เพิ่งเปิดเพื่อนำนักท่องเที่ยวจากเพื่อนบ้านเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในไทย สื่อถึงความต้องการของกลุ่มก่อเหตุคงไม่ต้องการให้พื้นที่เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ไม่เช่นนั้นคนจะลืมเรื่องการเจรจาขอพื้นที่ปกครองพิเศษหยุดชะงักไป 

ฝ่ายทหาร ตำรวจคงต้องระวังมากขึ้น ยิ่งเข้าใกล้เทศกาลปีใหม่ยิ่งต้องระวัง กลุ่มก่อเหตุอาจใช้ช่วงระยะเวลาที่ไม่สามารถก่อเหตุในพื้นที่ได้เพราะน้ำท่วมอยู่ หลบเข้ามาสร้างสถานการณ์นอกพื้นที่ในเมืองใหญ่ๆ ได้ ไม่ใช่ไม่เคยทำ ซึ่งจะเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวมเสียหาย แต่ก็มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่คงมีการเตรียมการไว้แล้ว 

ที่เป็นห่วงก็เป็นเพราะได้ยินว่าคนตัวใหญ่ที่สั่งการอยู่ประเทศเพื่อนบ้านบอกให้เร่งก่อเหตุ ต้องการให้รัฐบาลใหม่ของประเทศเพื่อนบ้านยกเรื่องนี้ให้มีความสำคัญมากขึ้น จะได้นำไปสู่การเจรจากับรัฐบาลไทยโดยเร็ว 

จากนี้ไปเราจะได้เห็น NGO บางองค์กรออกมาขอให้คุณประยุทธ์ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ให้ทหารออกจากพื้นที่ ตามมาด้วยพรรคการเมืองลงไปสร้างภาพหาเสียง ใช้แนวคิดก้าวล้ำที่เชิดชูสันติภาพให้ยุบองค์กรทหารในพื้นที่ มอบอำนาจให้ประชาชนดูแลกันเอง โดยไม่ได้ถามความต้องการของคนในพื้นที่ 

หาเสียงเสร็จแล้วก็กลับมานอนที่กรุงเทพ กระจายความคิดลงในสื่อโซเชียลแทน ไม่ได้หวังให้คนในพื้นที่เลือก แต่หวังคะแนนจากโลกออนไลน์ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแบบพรรคนี้ชอบใช้เป็นประจำ

———-
ท่าทีที่ชัดเจนของประยุทธ์ จันทร์โอชา
———-

ข่าวที่สามเป็นของคุณประยุทธ์เอง ที่ในที่สุดคุณประยุทธ์ก็ประกาศทิศทางการเมืองที่ชัดเจนออกมาแล้ว ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดไปจากการคาดหมายของคอการเมือง 

เพราะคุณประยุทธ์ค่อยๆ นวดการเมืองไปเรื่อยๆ ทีละน้อย รอดูการขยับขับเคลื่อนของแต่ฝ่ายแต่ละพรรค เดินเกมทีละชั้น รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม ประกาศตูมออกมาแล้ว การเมืองของประเทศไทยก็จะเดินหน้าไปในทางที่ชัดเจน 

วันนี้จึงชัดเจนสำหรับคนไทยทั้งมวลและคนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ปีหน้าคนไทยได้เห็นแล้วว่าตัวเลือกที่เราจะฝากความหวังให้เข้ามาบริหารประเทศ สร้างความเจริญรุ่งเรืองไปพร้อมกับบ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัย เป็นใครบ้างที่จะมาเป็นตัวเลือกสำหรับพวกเรา

———-
แคนดิเดตนายกฯ ของคนไทยในอนาคต
———-

จับมาเรียงแถวดูหน้าตากันเลย ใครเหมาะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของพวกเราในปี 2566 เป็นต้นไป ใครจะดูแลบ้านเมือง จะดูแลคนไทย จะดูแลในหลวง พระราชินี และสถาบันหลักของชาติ ให้วัฒนาถาวรสืบต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน เป็นใครบ้าง 

เรียงรายชื่อตามที่พรรคต่างๆ เคยเสนอชื่อ หรือกำลังโฆษณาหาเสียงว่าจะเสนอชื่อ หรือบางคนเป็นหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว เรามาดูกันและลองเปรียบเทียบความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริตทั้งตัวเองและคนรอบข้าง คุณธรรม จริยธรรม ประสบการณ์ วัยวุฒิ คุณวุฒิ บารมี ความเข้มแข็ง จิตใจและอุดมการณ์ต่อชาติบ้านเมือง รวมทั้งการยอมรับของสังคมโดยรวม 

ว่าที่นายกรัฐมนตรีของเราประกอบด้วยคุณประยุทธ์ คุณประวิตร คุณอนุทิน คุณจุรินทร์ คุณวราวุธ คุณแพทองธาร คุณพิธา คุณเสรีพิสุทธิ์ หรือคุณกรณ์ จะไม่ขอบอกว่าใครเจ๋งกว่าใคร ใครดีกว่าใคร ใครครบเครื่องกว่าเพื่อน แต่ขอเชิญพี่น้องส่องดูคุณสมบัติของแต่ละคนเอาเองละกัน 

ใครคือคนที่จะนำพาบ้านเมืองเราให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างก้าวหน้ารุ่งเรือง มีความสุข และเอาบ้านเมืองอยู่ในยามวิกฤต เก็บคนที่เลือกไว้ในใจ ค่อยๆ ดูภูมิปัญญาของแต่ละคนจากนี้เป็นต้นไป แล้ววันเลือกตั้งไปเข้าคูหากาพรรคที่เขาเสนอชื่อคนที่เราอยากได้เป็นนายกรัฐมนตรี