Here We Go 27
ประเทศไทยของเรากำลังกำลังเดินไปตามเส้นทางการเมืองและเศรษฐกิจ ที่ไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไร จะละเว้นการพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจไว้ก่อน เพราะมันพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว การให้ข้อมูลของแบงค์ชาติก็ดี กระทรวงคลังก็ดี สภาพัฒน์ก็ดี แสดงให้คนไทยเห็นว่าเรากำลังเงยหัวขึ้น และจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ
รัฐบาลสามารถออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มคนรายได้น้อย ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง ความเดือดร้อนผ่อนคลายลงพอสมควร เหลือค่าไฟที่กำลังหาเงินก้อนใหญ่มารับภาระแทนกลุ่มเปราะบางไว้ชั่วคราวระยะหนึ่ง ถ้าพื้นที่เหลือมากพอจะต่อเติมในตอนท้ายให้
สังเกตไหมว่าฝ่ายตรงข้ามคุณประยุทธ์ ละเลยที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านี้ หันเหความสนใจของ คนไทยไปทางประเด็นการเมือง เพื่อเอาคุณประยุทธ์ลงจากอำนาจให้ได้
เพราะถ้าปล่อยให้อยู่ต่อ เศรษฐกิจที่กำลังดีขึ้นจะกลายเป็นเกราะป้องกันคุณประยุทธ์ และอาจแปรเป็นคะแนนนิยมทาง การเมืองได้อีกรอบ
———-
เลื่อยขาประยุทธ์
———-
เส้นทางการเมืองที่ประเทศไทยกำลังเดินอยู่ขณะนี้คือ เรื่องระยะเวลาการเป็นนายกของคุณประยุทธ์ ฝ่ายตรงข้ามคุณประยุทธ์พร้อมใจกันรุมกระหน่ำให้ลาออกก่อนวันที่ 24 สิงหาคม
ถ้าไม่ออกม็อบจะเต็มถนน คนจะเกลียด จะต่อต้านเพิ่มมากขึ้น เครือข่ายนักวิชาการ หมอชนบท กลุ่มการเมืองสารพัดชื่อ เหล่า Influencer ในโลกออนไลน์
รวมทั้งพรรคการเมืองให้ความเห็นเหมือนกัน สื่อมวลชนทั้งกระแสหลักบางฉบับ สื่อออนไลน์ทั้งใหม่และเก่า รับความเห็นมาสร้างประเด็นขยายต่อ เพิ่มเติมเอาความเห็นทั้งหลายไปถามไปขยี้ต่อกับแหล่งข่าว
ถ้าติดตามทุกความเห็นจะเข้าใจลึกลงไปในใจของคนเหล่านั้นเลยว่า ทุกฝ่ายอ่านใจคุณประยุทธ์ว่าไม่ลาออกหรือไม่ยุบสภา เลือกที่จะรอให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ชี้อย่างไรจะทำตามที่ศาลชี้อย่างนั้น
พวกเขาจึงอยู่เฉยไม่ได้ ต้องเลี้ยงกระแสไม่เอาคุณประยุทธ์ไว้
ถ้าศาลชี้ว่าคุณประยุทธ์อยู่ต่อไม่ได้ก็จบ ได้ประกาศชัยชนะ
แต่ถ้าศาลชี้คุณประยุทธ์อยู่ต่อไปได้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ พวกเขาจะได้เล่นงานคุณประยุทธ์ให้บอบช้ำต่อไปได้เรื่อยๆ จนถึง เลือกตั้ง
———-
กลุยทธ์ของฝ่ายค้าน
———-
ข้อมูลวงในของฝ่ายไม่เอาคุณประยุทธ์ วิเคราะห์กันว่า คุณประยุทธ์จะเล่นการเมืองต่อไป แต่รอจังหวะเวลาที่จะประกาศท่าทีต่อสังคม เพราะมีปัจจัยบางอย่างยังไม่ลงตัว ต้องเคลียร์กันหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดเอกภาพอย่างแท้จริง เมื่อออกตัวแล้วต้องหยุดไม่ได้ สะดุดไม่ได้
หมากที่ต้องเดินคือ ทำลายความน่าเชื่อถือของคุณประยุทธ์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ใช้ความได้เปรียบที่คนไทยเบื่อง่าย อะไรที่อยู่มานาน เป็นสิ่งน่าเบื่อแม้จะมีสิ่งดีมากกว่าสิ่งไม่ดี หวังจะได้แรงกดดันจากสังคมรอบด้าน
ยิ่งไปดูคำให้สัมภาษณ์ของคุณประยุทธ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ไม่ลาออก ไม่ยุบสภา รอฟัง ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นจุดยืนและเชื่อว่าคงจะยืนมั่นแบบนี้ไปตลอด
ฝ่ายไม่เอาคุณประยุทธ์ ยังมองเห็นข้อสังเกตอีกเรื่องคือ ได้เห็นข้อมูลผลงานของคุณประยุทธ์ตลอดระยะเวลาแปดปี กำลังถูกทยอยนำออกมาเกือบทุกวัน พร้อมคุณสมบัติความซื่อสัตย์ เปิดเผย ตรงไปตรงมา ทำงานจริงจัง ภาพแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ จึงต้องลบล้างทั้งผลงานและคุณสมบัติของคุณประยุทธ์ให้ได้
คนไทยจึงได้เห็นการต่อสู้ด้วยกลยุทธ์ ชั้นเชิง ลูกเล่น ชิงไหวชิงพริบ เดินเกมบนดินใต้ดิน เป็นกำไรของพวกเราคนไทยที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ลองติดตามและเรียนรู้กันดู เพราะเราคือคนที่ได้รับผลกระทบทั้งทางดีและไม่ดีของการเมือง
———-
ปัจจัยใน-นอกประเทศที่รุมเร้า
———-
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าเศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่สัปดาห์ที่ผ่านมายังมีเรื่องที่ทำให้ทุกคนกังวลใจต่อการใช้ชีวิตประจำวันเพราะ ไฟฟ้าขอขึ้นราคา ไข่ไก่ประกาศขึ้นราคา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส น้ำตาล น้ำยาซักล้าง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดก็ขอปรับขึ้นราคาขาย
บางรายการบอกว่าถ้าไม่ให้ปรับขึ้นราคาจะต้องส่งไปขายในต่างประเทศแทน ซึ่งจะทำให้สินค้าในไทยหายไปจากตลาดเกิดสภาวะสินค้าขาดแคลนตามมา และจะเดือดร้อนไปทั่ว คนมีเงินก็หาซื้อของไม่ได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะราคาพลังงาน ปุ๋ย ผลิตภัณฑ์อาหารในตลาดโลกยังไม่ยอมลดลง สงครามรัสเซียยูเครนยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสงบ
ปัญหาจีนกับไต้หวันก็มีท่าทีจะยืดเยื้อ ส่งผลให้เรือขนส่งต้องวิ่งอ้อมช่องแคบไต้หวัน กระทบต่อต้นทุนขนส่งสินค้า ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าแต่มีแนวโน้มทิศทางที่ดี เริ่มทรงตัวมีโอกาสแข็งค่าในอนาคต ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันที่พุ่งสูงขึ้นนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ทุกประเทศเดือดร้อนกันหมด
สาเหตุสำคัญเกิดมาจากสิ่งที่รัฐบาลคุณประยุทธ์เองไม่สามารถควบคุมได้ ทำได้แค่หาวิธีบรรเทาความเดือดร้อนให้คนทุกกลุ่มตามน้ำหนักความเดือดร้อน กลุ่มเปราะบางมากก็ได้รับมากหน่อย กลุ่มแข็งแรงน้อยก็ดูแลบางส่วน แบ่งเบาความทุกข์กันไปพลางก่อน
———-
มาตรการเยียวภาครัฐ
———-
ที่ผ่านมารัฐบาลคุณประยุทธ์แก้ปัญหาได้ดี ใช้มาตรการช่วยเหลือเจาะลงถึงเฉพาะของแต่ละกลุ่มอาชีพ ที่ถือเป็นกลุ่มหาเช้ากินค่ำ เช่น
- ตรึงราคาก๊าซ LPG ให้กลุ่มอาชีพหาบเร่ แผงลอย ผู้มีรายได้น้อย
- คงราคาก๊าซ NGV ให้กลุ่มแท็กซี่ ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาท โดยราคาส่วนเกินให้กองทุนน้ำมันรับผิดชอบ
- คงส่วนผสมของไบโอดีเซลเพื่อช่วยเกษตรกร อุดหนุนเงินให้กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
- ออกโครงการคนละครึ่งเฟส 1-4
ทั้งหมดนี้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียน แต่เมื่อสถานการณ์ยังไม่บรรเทา รัฐบาลจึงเตรียมมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนไว้อีกระลอก ให้ครอบคลุมทุกประเด็นปัญหา
ทั้งปัญหาด้านต้นทุนการผลิต ต้นทุนด้านพลังงาน ปัญหาการเงินระดับครัวเรือนและ SME ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการวินเซฟช่วยกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โครงการลมหายใจเดียวกันช่วยกลุ่มแท็กซี่ โครงการประกันราคาสินค้าเกษตรช่วยเกษตรกร โครงการพักทรัพย์พักหนี้ช่วยภาคครัวเรือน โครงการบริหารจัดการปุ๋ย โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SME โครงการคนละครึ่งเฟส 5
นอกจากนี้รัฐบาลยังเตรียมมาตรการรองรับในระยะยาวไว้อีกด้วย เช่น พัฒนาการขนส่งทางรางและส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ ตั้งโรงงานผลิตปุ๋ย ส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและหุ่นยนต์
ทั้งหมดต้องใช้เม็ดเงินเข้ามาอุดหนุนและลงทุนอีกจำนวนมาก
———-
เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวท่ามกลางความวุ่นวาย
———-
ท่ามกลางภาวะวิตกกังวลยังมีเรื่องดีที่มีให้เห็น คือ ตัวเลขภาคการส่งออกของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 16 เดือน มาตั้งแต่ต้นปี 64 โดยเฉพาะหมวดสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร สร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก
ขณะที่หลายประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร แต่ไทยกลับเป็นผู้ส่งออกอาหารแทน
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไทยมีความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตมีมากพอที่จะส่งออก เงินบาทที่อ่อนค่าของไทย การได้ประโยชน์จาก FTA ที่รัฐบาลทำกับประเทศต่างๆ การเปิดตลาดใหม่ๆ
ที่ดีกว่านั้นภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ตั้งแต่ต้นปี 65 เป็นต้นมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว 3.5 ล้านคน คาดหมายว่าสิ้นปี 65 จะมีนักท่องเที่ยวถึง 10 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท
ซึ่งหมายถึงว่าเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจไทยเริ่มทำงานได้เต็มที่มากขึ้น เป็นเพราะทั่วโลกให้ความมั่นใจต่อมาตรการด้านสาธารณสุขของไทยนั่นเอง ทั้งหมดเป็นเพราะทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันในทิศทางเดียวกัน ข้อมูลดีๆ เหล่านี้ควรทำให้ทุกคนได้รับรู้ในวงกว้าง
———-
อย่ากลับไปเหมือนปี 56-57
———-
ช่วงเวลาหลังจากนี้จึงถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง
ถ้าไทยแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า เป็นประเทศที่มีเสถียรภาพในทุกด้าน มีความสงบเรียบร้อยไม่เป็นอันตรายต่อการเดินทางเข้ามาพำนัก ไม่มีความเสี่ยงที่จะเข้ามาลงทุน มีความปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว มั่นใจได้ว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาสร้างรายได้ให้ประชาชนอีกจำนวนมาก
ห่วงก็แต่ภาคการเมืองที่กลุ่มการเมืองพยายามจะสร้างกระแสขับไล่คุณประยุทธ์ เพื่อประโยชน์ของตนจนเลยเถิดกลายเป็นความรุนแรง ทำให้ชาวต่างชาตินึกย้อนไปถึงความวุ่นวายเมื่อปี 56-57 แล้วไม่อยากมาลงทุน ค้าขาย ท่องเที่ยวในไทย
หากเป็นเช่นนั้นไทยจะเสียโอกาสอย่างมากอีกครั้ง ประชาชนตาดำๆ อย่างเราจะไม่ได้อะไร มีแต่ความยากลำบาก เพียงแต่จะเห็นอำนาจถูกเปลี่ยนมือไปมาของนักการเมืองเท่านั้น
เรื่องคุณประยุทธ์จะครบ 8 ปีได้อยู่ต่อหรือไม่ ก็มีกลไกที่รองรับเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่เห็นความจำเป็นต้องสร้างความตื่นกลัวจนกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่กำลังจะดีขึ้น
บทเรียนเหล่านี้คนไทยต้องเรียนรู้ หากไม่อยากให้วงจรความรุนแรงนี้เกิดขึ้นอีก ทุกคนต้องช่วยกันตั้งสติ ยับยั้งชั่งใจให้ดี ชั่งน้ำหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการใดๆ
ทุกคนมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อประเทศที่อาศัยอยู่นี้
ประชิดหลังบ้านสหรัฐฯ‘จีน-คิวบา’ กำลังหารือเกี่ยวกับเรื่องการสร้างศูนย์ฝึกซ้อมทางทหารร่วมกัน
โต้กลับ ‘ศิริกัญญา’ ‘เผ่าภูมิ’ ชี้แยกให้ออกอะไรคือวิสัยทัศน์-วิธีการ-วิธีทำ ไม่ใช่ไปมองหาวิธีการทำก่อนการกำหนดวิสัยทัศน์ แนะอย่าเอาแต่อ่านผ่าน ๆ ควรอ่านให้ละเอียด
‘นมโตเป็นเหตุ’ อาจารย์ข้ามเพศในแคนาดา ถูกนักเรียนและผู้ปกครองร้องเรียน เรื่องหน้าอกปลอมที่ใหญ่เกินมนุษย์
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม