Here We Go (90) เสียท่า! ตัวอย่างความเสียท่าของยุโรปที่ยอมให้ตำรวจจีนเข้ามา และความเสียท่าของก้าวไกลจากปัญหาตั๋วช้างในพรรคตัวเอง

สัปดาห์นี้มีเรื่องที่ชวนคิดตามหลายเรื่อง Digital Wallet มีความชัดเจนมากขึ้น แจกใคร แจกอย่างไร เงินมาจากแหล่งไหน รายละเอียดพวกเราคงได้อ่านในสื่อต่างๆ แล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทยเวลานี้คือ การถกเถียงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องและหนี้สินที่จะเกิดขึ้นตามมา จากการที่ต้องกู้เงินแทนการใช้จ่ายจากงบประมาณแผ่นดิน 

สรุปว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายสำหรับรัฐบาลในการทำให้โครงการเกิดขึ้นได้จริง เชื่อว่า ทันทีที่โครงการเริ่มเดินหน้าอย่างเป็นทางการ มีร่าง พรบ. กู้เงิน มีมติ ครม.อนุมัติโครงการ จะเกิดการร้องต่อ ปปช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ การเสนอร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎรคงถูกอภิปรายจากพรรคฝ่ายค้าน 

ในที่สุดอาจผ่านความเห็นชอบได้ เพราะพรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมาก และพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่แตกแถวไม่เห็นด้วย แต่การพิจารณาในชั้นวุฒิสภาจะมีความไม่แน่นอน เสียงคัดค้านน่าจะมีจำนวนมาก ดูทรงแล้วอาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา อุปสรรคสำคัญที่สุดอยู่ที่การพิจารณาขององค์กรอิสระซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินการได้ต่อหรือต้องยกเลิกโครงการ ตลอดเดือนนี้เราคงได้เห็นประเด็นเชิงบวกและลบอีกมาก

—

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงหรือข้ามไปไม่ได้ นั่นคือข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีที่จะให้มีตำรวจจีนเข้ามาลาดตระเวนในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน แม้โฆษกรัฐบาลจะออกมาพูดว่าไม่ใช่เป็นการลาดตระเวนแต่เป็นการเข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจไทย ขอสังคมอย่าใช้วาทกรรมเรื่องเอกราชอธิปไตยมาโจมตีเรื่องนี้ 

แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ คัดค้านไม่เห็นด้วย ก็ไม่ได้เบาบางลงแม้แต่น้อย เพราะมีตัวอย่างมาแล้วในอิตาลีที่ได้ทำ MOU กับจีนมีการส่งตำรวจจีนเข้ามาทำหน้าที่สายตรวจ ชุดลาดตระเวน แล้วต้องยกเลิกไปเพราะตำรวจจีนไปทำงานอย่างอื่นทั้งแอบจับตัวคนจีนส่งกลับจีน ตั้งสำนักงานในชุมชนจีน เสมือนหนึ่งการมีสถานีตำรวจจีนในอิตาลี 

ในอังกฤษมีปัญหาเช่นกัน แต่คนละแบบกับอิตาลี คือไม่มี MOU ไม่ได้เข้ามาเป็นสายตรวจหรือลาดตระเวน แต่ขอเข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจอังกฤษ แต่ตำรวจจีนก็ทำเกินหน้าที่ที่อังกฤษอนุญาต มีการคุกคามชาวจีนในอังกฤษ ทำกิจกรรมจารกรรมข้อมูลของรัฐบาลอังกฤษ อังกฤษต้องปรับมาตรการความร่วมมือกับจีนให้เหมาะสม 

สรุปแล้วหลายชาติในยุโรปเสียท่าเพียงแค่อยากได้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากๆ แต่สูญเสียหลักการความเป็นรัฐเอกราช ประเทศไทยคงต้องคิดให้รอบคอบ อะไรทำไปแล้วมักเลิกยาก จึงไม่ควรใจเร็วด่วนได้

—-

อีกประเด็นที่อยากย้ำคือ นักการเมืองไทยมักจะคิดว่าประชาชนคนไทยลืมง่ายไม่ค่อยจำ จึงชอบประกาศหรือทำอะไรที่ไม่จำเป็นต้องตรงกับคำพูดแล้วก็หาเหตุผลต่างๆนาๆมากลบ แต่สมัยนี้มันมีร่องรอยที่ตกค้างอยู่ในโลกโซเชียล มีเดียให้กับทุกคนหยิบออกมาทวงถามได้ทุกเมื่อ พรรคการเมืองที่ประกาศจะทำการเมืองแบบมาตรฐานสูงก็กำลังจะโดนคำพูดไล่ล่าแบบ นี้เช่นกัน 

หลังจากที่กำจัดประเด็นคุกคามทางเพศไปแล้ว พรรคก้าวไกลยังต้องมาถูกขุดคุ้ยเรื่องพฤติกรรมตบทรัพย์ของสมาชิกพรรคอีก การแสดงออกของคุณชัยธวัชหัวหน้าพรรค เหมือนจะออกมาปกป้อง ส.ส.ของพรรคบางคนที่มีชื่อเกี่ยวข้องแทบจะทันที ทำให้นึกน้อยใจแทนคุณ ส.ส.แจ้ กับคุณปูอัด เหมือนกับว่าไม่ได้เป็น ส.ส.เด็กปั้นของพรรค ไม่จำเป็นต้องปกป้อง พร้อมที่จะสลัดทิ้งแบบไม่ต้องคิดมาก

พรรคนี้ให้ความสำคัญกับ ส.ส.ไม่เท่ากัน กลุ่ม ส.ส.เด็กปั้น จะถูกคัดเข้ามาฝึกฝน อบรม บ่มเพาะเพื่อให้สืบทอดเจตนารมณ์ของคนก่อตั้งพรรค อนาคตจะถูกกำหนดให้ดูแลพรรคต่อไป สังเกตได้ว่า ส.ส.กลุ่มนี้มักจะถูกกำหนดให้มีบทบาทอภิปรายในสภาตอบโต้กับรัฐบาลอยู่เนื่องๆ 

ส.ส.อีกกลุ่มหนึ่งส่วนใหญ่มาจากเขตเลือกตั้ง ไม่ได้ผ่าน การคัดกรอง ตรวจสอบมาก่อน เป็นเพราะตอนจะสมัครรับเลือกตั้งมีความเร่งรีบหาผู้สมัครลงให้ครบเขตเลือกตั้ง แล้วใช้การปั่นกระแสนิยมโดยใช้ชื่อพรรคผ่านสื่อโซเชียลจนได้รับเลือกตั้งเข้ามา ทั้งๆที่บางเขตพื้นที่คนเลือกยังไม่รู้จักหน้าตาของผู้สมัครเลย 

มั่นใจว่า ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคนไม่คิดว่าตัวเองจะได้เป็น ส.ส. บางคนสมัครเพื่อหวังผลสร้างโปรไฟล์ให้ตัวเองเท่านั้น ทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล หลายคนมีคุณสมบัติที่ขัดต่อระเบียบที่คณะกรรมการเลือกตั้งกำหนด บางคนมีพฤติกรรมที่สังคมรับไม่ได้ 

เดาว่าคุณพิธาก็เช่นกัน ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีถึงได้ยังคงถือหุ้นสื่อไว้ในมือ น่าเสียดายที่พรรควางมาตรฐานทางการเมืองไว้สูงกว่าพรรคการเมืองอื่น แต่ ส.ส.ของพรรคกลับมีคุณลักษณะของนักการเมืองที่ต่ำมาตรฐาน

ควันหลงจากเรื่องของ ส.ส.แจ้ กับปูอัด ยังไม่น่าจบแค่ขับออกจากพรรคก้าวไกล แต่ต้องดูว่ามีพรรคไหนจะอ้าแขนรับ พรรคนั้นคงถูก วิจารณ์สับเละที่รับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้เข้าพรรค แถมยังจะมีคนจองกฐินฟ้องเรื่องจริยธรรมเข้าไปอีก คงไม่มีพรรคไหนอยากรับเผือกร้อนถือไว้ และถ้าไม่มีพรรคไหนรับเข้าเป็นสมาชิก ก็ต้องหมดสภาพ ต้องจัดเลือกตั้งใหม่อีก ใครต้องเสียค่าใช้จ่าย คงโดนสังคมด่าอีกมาก ระยะนี้พรรคก้าวไกลคงต้องหาประเด็นการเมืองมากลบเรื่องฉาวภายในพรรคไปพลางก่อน